Phones





TPIPPมั่นใจปี63รายได้-กำไรนิวไฮ

2020-01-23 19:05:22 895




นิวส์ คอนเน็คท์ – TPIPP มั่นใจปี 63 รายได้เติบโตในระดับ 1.3 หมื่นล้านบาท ทำสถิตินิวไฮ จากปี 62 คาดรายได้อยู่ระดับ 1.05 หมื่นล้านบาท หลังจากปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดทุนเชื้อเพลิง RDF พร้อมเล็งซื้อกิจการใหม่ 3-4 โครงการ


เมื่อเร็วๆ นี้ นายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายโรงงาน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 63 จะยังคงทำรายได้ และกำไรสถิติสูงสุด (นิวไฮ) โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ในระดับ 13,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 62 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 10,500 ล้านบาท เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยดำเนินการปรับเปลี่ยนบอยเลอร์ (Boiler) ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 81% ในช่วงไตรมาส 4/62 จากระดับ 75% และคาดว่าปีนี้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 95% ส่งผลให้รายได้จากการขายไฟฟ้าในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน


พร้อมกันนี้ ยังสามารถลดต้นทุนจากการซื้อเชื้อเพลิงขยะ RDF หลังจากมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel หรือ RDF) ใช้เองทั้งหมด 6 แห่ง ในจ.สระบุรี, สมุทรสาคร, พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, นครราชสีมา และปทุมธานี ทำให้สามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิง RDF ที่จะต้องซื้อในสัดส่วน 60% ของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจากการลงทุนสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิง RDF เองในปัจจุบันส่งผลให้ต้องซื้อเชื้อเพลิง RDF เองเพียง 20% ของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ยังเป็นการรับรู้รายได้จากธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและก๊าซฯที่มีอยู่ 3 แห่ง เพื่อจำหน่ายให้กับระบบส่งของโรงงานปูนซีเมนต์ในกลุ่มบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL มีรายได้ประมาณ 700-800 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ ในปี 63 บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต RDF อย่างน้อย 2 แห่ง ใน จ.นครปฐม และลพบุรี ใช้เงินลงทนราว 200 ล้านบาทต่อแห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 63 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิต RDF เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่เกือบ 4,000 ตันต่อวัน โดยส่วนใหญ่ราว 2,600 ตันต่อวันจะส่งให้กับโรงไฟฟ้าขยะของบริษัท และเตรียมที่จะป้อน RDF ให้กับโรงปูนของ TPIPL ราว 1,200 ตันต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ในปี 63 บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 8,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ประมาณ 3-4 โครงการ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปลายไตรมาส 1/63 พร้อมกับเตรียมประมูลโครงการบริษัทจัดการขยะและผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และจ.สงขลา ส่วนที่เหลืออีก 2,000 ล้านบาท รองรับการขยายกำลังการผลิตโรงงาน RDF และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews