นิวส์ คอนเน็คท์ – COTTO วางเป้ารายได้ปีนี้โต 3-5% รับปัจจัยหนุนจากการขยายการลงทุนในพื้นที่ EEC การกรตุ้นเศรษฐกิจ การปรับโครงสร้างบริษัท ช่วยให้การแข่งขันดีขึ้น พร้อมอัดงบลงทุน 400-500 ล้านบาท ขยายร้าน วางเป้า 3-5 ปี มี 100 สาขา

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์ “คอตโต้” (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยว่า ในปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 3-5% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีรายได้ 11,074 ล้านบาท เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลเร่งดำเนินโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economy Corridor หรือ EEC) และการกระตุ้นเศรษฐของรัฐบาล ประกอบกับได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับโครงสร้างบริษัทที่ช่วยให้ความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น และช่วยลดต้นทุนลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร การขายและการตลาดได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ จากมาตรการของภาครัฐที่มุ่งเน้นช่วยผู้ประกอบการในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเหลือ 0.01% มาตรการสินเชื่อ 5 หมื่นล้านบาทของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท การคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 2.5% ใน 3 ปีแรกถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง บริษัทจึงได้เร่งขยายสาขาร้านคลังเซรามิค เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้มากขึ้น โดยในปี 63 บริษัทตั้งเป้าใช้งบลงทุนราว 400-500 ล้านบาท สำหรับการขยายร้านคลังเซรามิค โดยตั้งเป้าในระยะเวลา 3-5 ปีขยายให้ได้ 100 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 28 สาขา

อย่างไรก็ตาม ในปี 63 ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจยังคงต้องจับตามองเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน เรื่องเศรษฐกิจโลกหดตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้บริษัทก็ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือไว้แล้ว

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/62 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 2,545 ล้านบาท ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 7% จากไตรมาสก่อน โดยมีผลขาดทุน 70 ล้านบาท ลดลง 207% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 180% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากสถานการณ์ตลาดที่ชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำในส่วนของแผนการออกจากงานด้วยความเห็นชอบร่วมกันเป็นเงิน 85 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการปี 62 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 158 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาก๊าซธรรมชาติ รวมถึงความสามารถในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ประกอบกับสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร การขายและการตลาดได้ตามเป้าหมาย และมีกำไรจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหนองแคเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews