นิวส์ คอนเน็คท์ - กฟผ.คาดเซ็นซื้อก๊าซกับปตท.ได้ มิ.ย.นี้ พร้อมเร่งจัดทำแผนนำเข้า LNG ล็อตใหม่ ช่วงค่าเงินบาทแข็ง ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงรองรับโรงไฟฟ้าพระนครใต้ บางปะกง วังน้อย ขณะจัดหา LNG รองรับโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีคาดได้ข้อสรุปกลางปี

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 นายธวัชชัย จักรไฟศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ต้องการให้ กฟผ.กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เร่งนำเข้า LNG ว่า ปัจจุบัน กฟผ.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนคาดว่าจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ในเร็วนี้ หลังจากนั้นเสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบต่อไป ทั้งนี้การนำเข้า LNG ล็อตใหม่นั้นเพื่อนำมาป้อนเป็นเชื้อเพลิงใน 3 โรงไฟฟ้า คือ โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา,โรงไฟฟ้าวังน้อย จ.อยุธยา และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ จ.สมุทรปราการ

นอกจากนี้ที่ต้องเร่งนำเข้า LNG ในช่วงนี้ยังมีปัจจัยด้านความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น โดย ล่าสุด ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 1-23 ม.ค.63 อยู่ที่ 11,940 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 5.94% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ปี 62 และคาดว่าภาพรวมในปีนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเฉลี่ยในระดับ 4% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ประเมินว่าจะเติบโตราว 2% เมื่อเทียบกับปี62

ประกอบกับกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยคาดว่าจะไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้า และการนำเข้า LNG ส่งผลต่อค่าไฟฟ้าถูกลง เนื่องจากราคา LNG อ้างอิงตลาดจร หรือ LNG SPOT Japan/Korea Marker เฉลี่ยอยู่ในระดับ 4 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ส่วนราคา Pool Gas นั้นเฉลี่ยในระดับ 7-8 เหรียญสรัฐต่อล้านบีทียู ส่งผลให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าถูกลง ขณะเดียวกันก๊าซในอ่าวไทยในส่วนที่ไม่ผ่านโรงแยกก๊าซถูกนำไปใช้ในขบวนการผลิตปิโตรเคมีมากขึ้น

อย่างไรก็ตามจากการเร่งดำเนินการจัดหา LNG ล็อตใหม่นั้นคาดว่าภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.63 จะสามารถดำเนินการในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างได้ ซึ่งปีนี้ก็จะเหลือระยะเวลาเพียง 6 เดือนในการจัดหาคาดว่าความเหมาะสมในการจัดหา LNG ในปีนี้จะมีความต้องไม่ 1 ล้านตัน

ส่วนความคืบหน้าการลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติหลัก หรือ Global DCQ ระหว่าง กฟผ.ที่จะรับซื้อก๊าซฯจาก ปตท.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดส่งร่างสัญญาซื้อขายก๊าซฯให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบความถูกต้องของสัญญา โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับ ปตท.ได้ในเดือน มิ.ย.63 ส่วนปริมาณซื้อขายก๊าซฯ ภายใต้สัญญา Global DCQ เบื้อต้นคาดว่าจะอยู่ในระดับ 3.5-5 ล้านตันต่อปี โดยมีอายุสัญญา 10 ปี (ปี2563 – 2572) จากความต้องการในปัจจุบันอยู่ในระดับ 5-6 ล้านตันต่อปี

สำหรับความคืบหน้ากาจัดหา LNG เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี กำลังผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์จำนวน 2โรงขณะนี้ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ประเมินความเหมาะสมของพื้นที่ในการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการนำเข้า LNG ว่าควรจะดำเนินการในรูปแบบใด ระหว่าง การจัดสร้างคลังรับ-จ่ายLNG บนบก และคลังรับ-จ่ายLNG ลอยน้ำ(FSRU) รวมถึงการกำหนดพื้น และขนาดที่เหมาะสม คาดว่า จะได้ข้อสรุปกลางปีนี้ และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ได้ภายในปี 68 และปี 70 หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเร่งรัดให้ COD ก่อนกำหนดเดิม COD ในปี 70-72 ตามลำดับ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews