Phones





PTTเสนอรัฐเปิดPPPผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดรับมือภัยแล้ง

2020-02-07 11:33:45 1348




นิวส์ คอนเน็คท์ - PTT เสนอรัฐเปิด PPP ให้เอกชนผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลรองรับความเสี่ยงอุตสาหกรรมขาดแคลนน้ำ เจรจาลดปริมาณซื้อก๊าซในเมียนมา -อ่าวไทย เล็งนำเข้า LNG จากตลาด spot ที่มีราคาถูก ยันจีนลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้งไม่กระทบ IRPC

เมื่อเร็วๆ นี้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่าสถานการณ์ภัยแล้งที่ยังมีความเสี่ยงจะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม โดยเบื้องต้นกลุ่ม ปตท.ก็มีแผนลดการใช้น้ำลง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรัฐบาล โดยคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ก็ได้เข้ามาดูแลและบูรณาการทุกฝ่ายเพื่อให้มีน้ำเพียงพอ ทั้งการกักเก็บน้ำและผันน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ โดยคาดหวังว่าปริมาณฝนจะตกลงมาในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. ซึ่งจะทำให้สามารถผ่านพ้นปัญหาขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรมไปได้ในปีนี้


อย่างไรก็ตามในระยะยาวเห็นว่าน้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องไม่ให้ขาดแคลนและมีความมั่นคง เหมือนเช่นไฟฟ้า และสาธารณูปโภคอื่น ๆ ปตท.จึงได้เสนอแนวคิดให้รัฐบาลมีการนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด โดยให้ กนช.ให้เปิดประมูลในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เพื่อให้เอกชนมาร่วมลงทุนในการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ในพื้นที่ แหลมฉบัง มาบตาพุด จ.ชลบุรี และระยอง ที่เป็นพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ขาดแคลน้ำในอนาคต ซึ่งบริษัทในกลุ่ม ปตท.มีความพร้อมที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ขึ้นกับเงื่อนไขของ PPP


ส่วนกรณีที่ รมว.พลังงาน ให้ปตท.ศึกษาความเป็นไปได้ในการเร่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในช่วงนี้ที่มีราคาต่ำ และช่วงเงินบาทแข็งค่าเข้ามาใช้เพื่อชะลอการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยนั้น ปตท.ในฐานะผู้ซื้อก๊าซฯ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตก๊าซฯ ที่ปตท.มีสัญญาซื้อในเมียนมา และในอ่าวไทยเพื่อขอให้ลดปริมาณการส่งก๊าซฯให้ ปตท. ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะลดในปริมาณเท่าใดที่จะไม่เกิดผลกระทบต่อทุกฝ่าย โดยคาดว่าจะสรุปได้ไม่เกินไตรมาส 1/63 ถ้าลดลงมาได้ก็สามารถเอา LNG จากตลาด Spot ที่มีราคาถูกได้


ส่วนราคาน้ำมันและความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงในช่วงนี้ ไม่ใช่สาเหตุจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเพียงอย่างเดียว แต่เริ่มจากปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงทางการค้าในเฟสแรกแล้ว ก็เชื่อว่าจะมีเฟสต่อ ๆ ไป ซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันยังขยายตัวได้ ส่วนกรณีที่จีนมีแผนจะลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อผู้ผลิตในกลุ่มของปตท. ไม่ว่าจะเป็นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC โดยเฉพาะ IRPC ที่ปัจจุบันมีแผนหันไปผลิตเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ (Specialties) มากขึ้น และกลุ่มปตท.ก็เริ่มเจรจากับบางประเทศในยุโรป หรือญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยี และวัตถุดิบ เพื่อนำมาใช้ในการผลิตสินค้าประเภท Specialties เพิ่มเติมด้วย


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews