นิวส์ คอนเน็คท์ - PTTEP ยันปีนี้ไม่มีแผนซื้อกิจการ ลุยผลิตแหล่งที่มีในมือ ชี้ก.ค.นี้เริ่มผลิตแหล่งซาบาห์ เอชในระดับ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันหนุนปริมาณผลิตตามเป้า คาดไตรมาส1รู้ผลประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่ในยูเออี

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า โครงการซาบาห์ เอช ที่ประเทศมาเลเซียนั้นจะเริ่มดำเนินการผลิตประมาณเดือน ก.ค.63 อายุสัญญาซื้อขายก๊าซ 10 ปีเป็นอย่างต่ำ โดยเมื่อเริ่มต้นการผลิตคาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ในระดับ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีปริมาณสำรองที่พิสูจน์ทราบแล้วมากกว่า 1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ เริ่มผลิตปี 2021 ส่วนโครงการเมียนมา M11 ที่ยกเลิกไปนั้นเพราะดำเนินการสำรวจไม่พบปิโตรเลียม

ส่วนโครงการที่ PTTEP ร่วมกับบริษัท ENI และพันธมิตรต่างชาติอีกรายยื่นประมูลขอสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่จำนวน 2 แปลง
ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) นั้นคาดว่าจะทราบผลประมูลประมาณไตรมาส1/63 ขณะเดียวกันก็สนใจประมูลแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทยที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติมีแผนจะเปิดประมูลรอบที่ 23 ในนปีนี้ แต่ก็ต้องรอความชัดเจนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติก่อน

อย่างไรก็ตามในปี 63 บริษัทไม่มีแผนลงทุนซื้อกิจการ (M&A) แต่หากมีโอกาสดีในการซื้อก็จะพิจารณา แต่การดำเนินงานในปีนี้ PTTEP จะมุ่งดำเนินงานตามแผนการเปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินงานโครงการใหม่ที่ได้ในปีที่ผ่านมาให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และโครงการ G2/61 (แหล่งบงกช) ที่กำลังเตรียมแผนงานเพื่อให้ได้ปริมาณการผลิตตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต โดยได้เริ่มวางแผนการเจาะหลุมสำรวจ การสร้างแท่นผลิตและท่อส่งก๊าซธรรมชาติ

รวมถึงศึกษาการเตรียมความพร้อมในด้านอื่น ๆ ซึ่งในส่วนของแหล่งเอราวัณนั้น PTTEP ได้ประสานงานกับผู้รับสัมปทานรายเดิมและกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามแผนและผลิตก๊าซธรรมชาติ โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าพื้นที่ได้ภายในปีนี้

ทั้งนี้ในปี 63 PTTEP มีการเจาะหลุมสำรวจทั้งหมด 18 หลุม ใน 5 ประเทศ มาเลเซีย เมียนมา ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก คาดว่าจะใช้งบในการเจาะหลุมสำรวจประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยจะเร่งกิจกรรมการสำรวจในโครงการที่มีศักยภาพสูง เช่น โครงการเมียนมา เอ็มดี-7 และหลุมสำรวจลัง เลอบาห์-1อาร์ดีอาร์ 2 ในแปลงซาราวัก เอสเค 410บี ประเทศมาเลเซีย พร้อมยังคงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงการปัจจุบัน และผลักดันการพัฒนาโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ให้สามารถผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว

โดยปีนี้ตั้งเป้าปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยจะอยู่ในระดับ 390,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.5% จากปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในปี62 อยู่ในระดับ 350,651 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews