Phones





InnovestX คัด 5 กองทุนเด่นลงทุนตปท. สร้างการเติบโตระยะยาว

2024-08-18 16:11:15 274



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - InnovestX เดินหน้าดันตลาดกองทุน ส่ง 5 กองทุนยอดนิยมลงทุนในตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว แม้ในภาวะตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วง Sideway และการเมืองไทยที่ยังไม่แน่นอน พร้อมส่งโปรโมชันหั่นค่าธรรมเนียม 50% แก่ลูกค้า InnovestX เท่านั้น
 
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 นายพยนต์ พงศาวรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานฝ่าย Wealth Products and Strategy บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เรือธงด้านการลงทุนภายใต้ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) เปิดเผยว่า InnovestX ประเมินมุมมองด้านเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัว โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะ Soft landing เนื่องมาจากธนาคารกลางหลายประเทศรวมถึงเฟด จะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้นด้วยการลดดอกเบี้ย ซึ่ง InnovestX มีมุมมองว่าเฟดจะมีการลดดอกเบี้ย 2 – 3 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ในระยะสั้นภาพการลงทุนอาจจะมีความผันผวนจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวดังกล่าว รวมถึงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
 
อย่างไรก็ตาม มองว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี ดังนั้นจึงมองการปรับฐานของตลาดเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มการลงทุนในพอร์ตผ่านกองทุนคุณภาพ ที่มีการกระจายการลงทุนในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อหาโอกาสการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ในภาวะตลาดหุ้นไทยยัง Sideway จากปัจจัยรุมเร้าทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง
 
สำหรับ 5 กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ 1.SCBWORLD(A): กองทุนหลัก iShares MSCI World ETF (USD) มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive โดยอ้างอิงดัชนีหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว รวม 23 ประเทศ สัดส่วนหลักของพอร์ตการลงทุนจะกระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มบริการทางด้านสุขภาพ กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เหมาะสำหรับการเป็นจุดเริ่มต้นในกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว มีความมั่นคง มีความโปร่งใส และมีสภาพคล่อง
 
2.SCBS&P 500, SCBS&P500(A): S&P500 Index มีมูลค่าตลาดกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูง และมีผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง 11.02% ต่อปี มีการกระจายการลงทุนครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มบริโภค ประกอบด้วยหุ้นชั้นนำที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้นำตลาดในด้านต่างๆ เช่น Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta, Nvidia และ Tesla เป็นต้น
 
3.SCBSEMI(A): กองทุนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) หัวใจหลักของอุตสาหกรรม AI และนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต โดยสถาบัน Social Impact Assessment (SIA) คาดการณ์ว่าตลาด Semiconductor จะมีมูลค่าแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2573 ความต้องการที่มีมากขึ้นทำให้เกิดโอกาสที่จะเกิดการขาดแคลนชิป ซึ่งเป็นตัวเร่งให้บริษัทผู้ผลิตชิปได้ประโยชน์จากการขายในราคาที่สูงขึ้น
 
4.Principal VNEQ-A: ADB (Asian Development Bank) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะมีการเติบโตเฉลี่ย 6.0% ในปี 2567 และ 6.2%ในปี 2568 โดยเวียดนามเป็นประเทศโดดเด่นที่สามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ได้อย่างต่อเนื่อง และยังมีโอกาสเติบโตจากภาคการบริโภคในประเทศจากการเติบโตของชนชั้นกลางวัยหนุ่มสาว โดยกองทุน Principal VNEQ-A สามารถสร้างผลตอบแทนอันดับ 1 ในปี 2566 ในกลุ่มกองทุนเวียดนามในไทยเทียบกับกองทุนหุ้นเวียดนามในไทย
 
5.UGISFX-N: ลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก ผ่านกองทุน PIMCO GIS Income เป็นกองทุนหลัก ที่มีประวัติการจัดตั้งมาอย่างยาวนาน โดยนับตั้งแต่จัดตั้งในปี 2555 PIMCO GIS Income Fund สามารถสร้างผลตอบแทนในสกุลเงิน USD ได้เฉลี่ย 5.05% ต่อปี โดยในสภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ตราสารหนี้ จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ต ทั้งนี้ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ตราสารหนี้มีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างราคาตราสารหนี้ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น (Capital Gain) ซึ่งเป็นส่วนเสริมในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมนอกเหนือจากดอกเบี้ยที่ได้รับ (Coupon)
 
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ www.innovestx.co.th/products/fund/ติดตามบทวิเคราะห์ และกลยุทธ์การลงทุนที่ www.innovestx.co.th/research และ Facebook: InnovestX