Phones





เดอะวิสดอมกสิกรไทย ชี้ 3 โจทย์ใหญ่โค้งท้ายปี 67

2024-08-27 19:34:12 5512



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - เดอะวิสดอมกสิกรไทย จัดสัมมนา “THE WISDOM Wealth Decoded การเลือกตั้งทั่วโลกปี 2024 จับตาการลงทุนและความท้าทายที่รออยู่” จับตาการเลือกตั้งของประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ รวมถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้า เตรียมรับแรงกระเพื่อมทั่วโลก การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์
 
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 นายบุรินทร์อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การเลือกตั้งในเวทีโลกทั้งสองประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษ ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงขั้ว ทั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ นโยบายต่างประเทศ นโยบายทางการคลังมีทิศทางเพิ่มรายจ่ายภาครัฐเพื่อสนับสนุนค่าครองชีพของครัวเรือน โดยการเลือกตั้งของอังกฤษ การชนะแบบแลนด์สไลด์ของพรรคแรงงาน (Labour Party) ภายใต้การนำของ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) เป็นการเปลี่ยนขั้วการเมืองจากพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative) ไปสู่จุดยืนทางการเมืองของพรรคแรงงานที่ไปทาง “ซ้ายกลาง” และไม่สนับสนุนแผนปรับลดรายจ่ายภาครัฐที่รัฐบาลเดิมเสนอไว้ โดยพรรคแรงงานมุ่งเน้นเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณสุข การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยที่ไม่เพียงพอและมีราคาแพง เป็นต้น
 
ขณะที่ฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากผลการเลือกตั้งรอบสองปรากฏว่า “นิว  ป๊อปปูลาร์ ฟรอนต์” (NPF) กลุ่มพันธมิตรแนวร่วมฝ่ายซ้ายชนะมาเป็นอันดับ 1 ขณะที่พันธมิตรแนวร่วมสายกลางของ “เอ็มมานูเอล มาครง” (Emmanuel Macron) มาเป็นอันดับ 2 ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มแนวร่วมใดที่ชนะเด็ดขาด และมีคะแนนเสียงมากพอที่จะครองเสียงข้างมากในสภา ทั้งนี้ หนึ่งในแผนสำคัญที่ NPF ฝ่ายซ้ายได้ประกาศไว้ คือ การยกเลิกการปฏิรูประบบเงินบำนาญของมาครง ซึ่งมีนโยบายขยายอายุเกษียณ จาก 62 ปี เป็น 64 ปี และปรับเพิ่มเงินบำนาญเกษียณอายุขั้นต่ำสำหรับผู้ทำงานครบกำหนด ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง ฝรั่งเศสยังเผชิญกับปัญหาหนี้สินอยู่ในระดับสูง การขาดดุลงบประมาณ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลัง
 
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเดือนพ.ย. นี้ เป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างจับตาว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ระหว่างกมลา แฮร์ริส กับ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทรัมป์ให้ความสำคัญกับนโยบายทางเศรษฐกิจ ผู้อพยพชายแดนเม็กซิโก และลดการสนับสนุนความมั่นคงของประเทศพันธมิตร หากทรัมป์ชนะ จะทำให้สงครามการกีดกันการค้าเพิ่มขึ้น เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ากับทุกประเทศ 10% โดยเฉพาะจีน ที่จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 60% ซึ่งจะทำให้ค่าเงินหยวนอ่อน รวมถึงค่าเงินบาทไทย ในขณะที่แฮร์ริส เน้นด้านสาธารณสุข และสนับสนุนเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม
 
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก The Economist Intelligence Unit (EIU) ประเมินว่า หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ประเทศคู่ค้า 5 อันดับแรกของสหรัฐฯ ที่จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ได้แก่ เม็กซิโก จีน แคนาดา เวียดนาม และเยอรมัน โดยประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 11 คาดการณ์ว่า หากทรัมป์ขึ้นกำแพงภาษี อาจส่งผลกระทบกับ GDP ของไทยประมาณ -0.3 ใน 2 ปีข้างหน้า
 
อย่างไรก็ตาม การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ The Federal Reserve (FED) แรงที่สุดในรอบ 23 ปี “หลายประเทศได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะสกุลที่ดอกเบี้ยต่ำหรือสกุลที่ลดดอกเบี้ย เช่น เงินหยวน เงินเยน ก็เป็นเงินที่มีประเด็นของการอ่อนค่าลง ทำให้เกิดช่องว่างอัตราดอกเบี้ยที่เรียกว่า “Carry Trade” หรือการเทรดโดยการกู้ยืมเงินในแหล่งเงินกู้ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อที่จะไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า โดยหวังทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะเงินเยน เนื่องจากดอกเบี้ยญี่ปุ่นต่ำมากมาเป็นเวลาหลายปี ทำให้นักลงทุนนิยมกู้ยืมเงินไปลงทุนสินทรัพย์อื่นๆ เช่น การใช้เงินเยนไปซื้อเงินดอลลาร์ที่ให้ดอกเบี้ย 5% สกุลเงินเปโซของเม็กซิโก ที่ได้ดอกเบี้ย 10% หากเกิดการทำ Carry Trade ปริมาณมากอาจกดดันให้เยนอ่อนค่า สวนทางดอลลาร์แข็ง กระทบบาทไทยและอีกหลายสกุลทั่วโลก
 
ทั้งนี้ เดอะวิสดอมกสิกรไทย แนะลงทุนกลุ่มหุ้นที่อิงเมกะเทรนด์ เติมพอร์ตให้แกร่งระยะยาว โดยสังคมสูงวัย (Silver Economy) จำนวนผู้สูงอายุในแต่ละทวีปเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราการเกิดน้อยลง ทำให้ธุรกิจเฮลท์แคร์ เป็นธุรกิจแห่งอนาคต เทคโนโลยี AI ปัจจุบันการลงทุนใน AI คิดเป็น 3% ของการลงทุนด้านเทคโนโลยีทั้งหมด คาดการณ์ว่า ภายในปี 2032 จะเพิ่มเป็น 11% แนะนำลงทุนในกลุ่มธุรกิจต้นน้ำ เช่น เซมิคอนดัคเตอร์ ธุรกิจยา การพัฒนายารักษามะเร็ง ยารักษาโรคอ้วน และลดความอ้วน ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยหนุนทำให้การลงทุนนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจท่องเที่ยว คนทั่วโลกเดินทางท่องเที่ยวเยอะขึ้น แต่มีการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง หันมาเน้นท่องเที่ยวแบบซื้อประสบการณ์แทน ไม่ซื้อของ ส่งผลให้การใช้จ่ายของจำนวนหัวของนักท่องเที่ยวลดลง แต่ในทางกลับกันกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องบิน เครื่องจักร กลับได้ประโยชน์ตรงนี้มากขึ้น