Phones





ตลท.เผยSETรูดแรง เหตุกังวลไวรัสโควิด-19

2020-02-24 13:48:55 1042




นิวส์ คอนเน็คท์ - ตลท.เผย ดัชนีหุ้นไทยรูดแรง เหตุกังวลไวรัสโควิด-19 แนะนักลงทุนควรกระจายการลงทุนเพื่อลดเสี่ยง เชื่อตลอด Q1/63 ตลาดฯยังคงผันผวน หลังมีหลายปัจจัยเข้ากดดัน


เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากกรณีความกังวลการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (ไวรัสโควิด-19) ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกให้ปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตาม หากจำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัวหรือลดลง เชื่อว่าความกังวลจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


ส่วนช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.พ.63) ที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 2% มองว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดดังกล่าว รวมถึงหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง และบริษัทมีรายได้คงที่ พร้อมแนะนำนักลงทุนควรแยกแยะกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงควรกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปในหลายประเภท

"ผมมองว่าทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ แนะนำนักลงทุนกระจายความเสี่ยงในทุก Asset โดยเลือกลงทุนบริษัทที่มีรายได้คงที่ ปันผลสูง และเป็นบริษัทที่ไม่โดนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และควรแยกแยกข่าวให้ดี รวมถึงควรแยกแยะกลุ่มที่จะเข้าลงทุนด้วยเช่นกัน ส่วนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาตินั้น มองว่ายังคงไม่หายไปไหน และเชื่อว่าจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก" นายภากร กล่าว


ทั้งนี้ ยังมองว่าไตรมาส 1/63 สภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามากดดัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด ส่วนมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ มองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้แต่อย่างใด และแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เชื่อว่าตลาดฯ ยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากหุ้น IPO ที่ยังคงดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดฯอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ตลท.ยังได้มีการนำเสนอเรื่องการใช้ระบบ E-proxy และลงมติผ่านระบบ E-voting ได้ จะทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษํทจดทะเบียนต่างๆ มีช่องทางเข้าร่วมประชุม และมองว่าเรื่องนี้ถือว่ามีความสำคญ เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหาความเสี่ยงเกี่ยวกับไวรัสโควิค 19 และอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างรอทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ก่อนพิจารณาออกเป็นพระราชบัญญัติต่อไป


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews