นิวส์ คอนเน็คท์ – THAI ลั่น 1 มี.ค.นี้ เริ่มปรับลดเงินเดือนระดับผู้บริหารตั้งแต่ดีดีลงมา ตามสัดส่วนตั้งแต่ 15-25% บังคับใช้ 6 เดือน ชี้ ไวรัสโควิด-19 กระทบ Cabin Factor หดตัว คาดทั้งปีอยู่ระดับ70%

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว โดยจากผลกระทบดังกล่าวนั้น การบินไทยเตรียมปรับลดเงินเดือนผู้บริหารตั้งแต่ระดับดีดีการบินไทยลงมาตามลำดับขั้นตามสัดส่วนตั้งแต่ 15%, 20% และ25% พร้อมลดผลตอบแทน ลดค่าใช้จ่ายที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติการบิน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.63 ใช้ระยะเวลาการบังคับ 6 เดือน หลังจากนั้นค่อยประเมินผล

ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดโรคระบายไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) บางเส้นทางบินลดลงกว่า 50% โดยเฉพาะในเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากเดือน มี.ค.63สถานการณ์จะเริ่มกลับมาดีขึ้น

ด้านนายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวว่า หลังจากเกิดโรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ Cabin Factor ของสายการบินไทยปรับตัวลดลง โดยในเดือน ม.ค.63 Cabin Factor เฉลี่ยในระดับ 80% เดือน ก.พ.63 เฉลี่ยมากกว่า 70% แต่ไม่ถึง 80% เนื่องจากผู้โดยสารจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ปรับตัวลดลง ส่วนในเดือนมี.ค.63 คาดว่าจะต่ำกว่า 70% เนื่องจากโรคโรคไวรัสโควิด-19 เริ่มมีการแพร่ระบายไปในอิตาลี อิหร่าน ก็ต้องรอประเมินในภาพรวมของเดือนมี.ค.อีกครั้ง ทั้งนี้ จากผลกระทบดังกล่าว คาดว่า Cabin Factor ของไตรมาส 1/63 จะเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมทั้งปี 63 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 70%

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย สถานการณ์จะกลับมาปกติ โดยช่วงสงกรานต์ยอดจองตั๋วยังไม่มีการยกเลิกการจอง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรป และออสเตรเลีย รวมถึงมอสโคว์ ยังมีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สำหรับสัดส่วนรายได้จากการขายตั๋วของการบินไทยนั้น มาจากกลุ่มประเทศเอเชียเหนือรวมจีน 30% ยุโรป 30% ออสเตรเลีย 10% ที่เหลือ 30% เป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงอินดิน และภายในประเทศ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com

หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews