Phones





โต้ฝ่ายค้าน อย่าบิดเบือนข้อมูล เงิน “ชิมช้อปใช้”

2020-02-26 13:36:45 446




นิวส์ คอนเน็คท์ - "ผู้ช่วยรัฐมนตรีชาญกฤช" โต้กลับฝ่ายค้าน ควรนำเสนอข้อมูลอย่างสร้างสรรค์ อย่าบิดเบือนข้อมูลกับพี่น้องประชาชน โครงการ“ชิมช้อปใช้” ไม่ได้เอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ช่วยกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย กระตุ้นระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ยอดใช้จ่ายเมืองรองจากโครงการมากกว่า 17,000 ล้านบาท


จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน รวมทั้งนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ บอกว่า เศรษฐกิจไม่ดี ความเหลื่อมล้ำสูง เงิน "ชิมช้อปใช้" ไหลเข้าตระกูลใหญ่ ซึ่งงบประมาณ "ชิมช้อปใช้" ประมาณ 20,000 ล้านบาท สามารถนำไปใช้ในมาตรการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซื้อเตียงผู้ป่วยได้จำนวนมากนั้น


เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ยืนยันว่า โครงการ "ชิมช้อปใช้" เป็นมาตรการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบโดยตรงและรวดเร็ว ถือว่ามีความจำเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำ และถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง


โดยข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ตั้งแต่ 27 ก.ย.62-31 ม.ค.63 พี่น้องประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 14 ล้านคน ใช้จ่ายเม็ดเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” กว่า 29,000 ล้านบาท พี่น้องประชาชนเติมเงินผ่านกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) สูงถึงร้อยละ 60 มีการใช้จ่ายผ่านร้านชิม 4,758.7 ล้านบาท ร้านช้อป 20,212.0 ล้านบาท ร้านใช้ 464.3 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 3,288.4 ล้านบาท


เห็นได้ชัดว่าเม็ดเงินราวร้อยละ 92 ของยอดจับจ่ายใช้สอยทั้งหมดหมุนเวียนผ่านผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย มีเพียงแค่ร้อยละ 8 เท่านั้นที่เข้าสู่ร้านโมเดิร์นเทรด เพราะในช่วงเริ่มต้นผู้ประกอบการบางรายทำโปรโมชั่นพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า จึงเร่งแก้ปัญหาให้ยกเลิกโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม จากจุดนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าโครงการ "ชิมช้อปใช้" ไม่ได้เอื้อประโยชน์นายทุน หรือเงินไหลเข้าตระกูลใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เงินไหลเข้าร้านค้าชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยในทุกจังหวัดทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นการจับจ่ายใช้สอยในเมืองรองมากกว่าเมืองหลัก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 หรือมีมูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท


“ผมได้รับมอบหมายจากท่านอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ลงพื้นที่ติดตามความเรียบร้อยของโครงการอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่ม เม็ดเงินได้กระจายลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง ร้านค้าของชาวบ้านได้รับประโยชน์ ยอดขายปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ บางร้านปรับเพิ่มทะลุ 100 เปอร์เซ็นต์ก็มี เม็ดเงินไม่ได้ไหลเข้าผู้ประกอบการรายใหญ่ตามที่มีการอภิปราย ผู้ที่ได้รับรางวัลจากการลุ้นโชคก็เป็นชาวบ้านและผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย รางวัลที่ 1 รถยนต์ โตโยต้า ก็เป็นของชาวนาที่โคราช ที่เติมเงินของตนเองเข้าไปในกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) ส่วนประเด็นที่คุณมิ่งขวัญเสนอให้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและกฏหมายการค้าขายออนไลน์เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามเร่งแก้ปัญหาอยู่ ส่วนการดูแลงบประมาณด้านสาธารณสุข ตนก็ขอยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เป็นลำดับต้นๆ อยู่แล้ว เพราะการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ถือเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายชาญกฤชกล่าว


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews