Phones





THAIขาดทุน1.2หมื่นลบ. ลุ้นโควิด-19คลี่คลาย

2020-03-02 18:37:55 1731




นิวส์ คอนเน็คท์ – THAI ลุ้นสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย รับสภาพเดือน ก.พ.ผู้โดยสารลด 30% ขณะที่เที่ยวบินลดลง 10% ส่วนเดือน มี.ค.-พ.ค.63 คาดเที่ยวบินลดลง 20% พร้อมเดินหน้าแผนจัดหาเครื่องบิน กางงบปี 62 ขาดทุน 1.2 หมื่นล้านบาท


เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาพรวมผู้โดยสารในช่วงเดือน ก.พ. 63 ปรับตัวลดลง 30% โดยเฉพาะผลกระทบส่วนใหญ่มากจากผู้โดยสารในเอเชียที่ลดลงกว่า 30-40% ขณะที่จากยุโรปลดลงราว 5%


ทั้งนี้ จากผลกระทบดังกล่าว การบินไทยต้องดำเนินการปรับลดเที่ยวบินเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ โดยภาพรวมเที่ยวบินช่วงเดือน ก.พ.63 ลดลง 10% ขณะในช่วง มี.ค.-พ.ค.63 คาดว่าจะลดลง 20% นอกจากนี้ การบินไทยยังได้มุ่งเน้นการควบคุมและลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการและความปลอดภัย อาทิ ชะลอการลงทุน ชะลอการว่าจ้างบุคลากร ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้าง ลดวัสดุอุปกรณ์สิ้นเปลือง เป็นต้น รวมทั้งปรับลดเงินเดือนระดับผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ร่วมสมัครใจลดผลตอบแทนลง 50% เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ มี.ค.63

อย่างไรก็ตาม การบินไทยคาดว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายและจบในช่วงไตรมาส 3/63 จะส่งผลให้ธุรกิจการบิน และการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยต้องขึ้นอยู่กับมาตรการป้องกันของแต่ละประเทศด้วยว่าจะมีความเข้มข้นมากน้อยอย่างไร ขณะที่ในประเทศจีนนั้น สถานการณ์เริ่มคลี่คลายดีขึ้น ยอดผู้เสียชีวิต ผู้ติดเชื้อเริ่มนิ่ง เมืองอู่ฮั่นทยอยเปิดเมืองแล้ว ขณะที่ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เชื่อว่าจะคลี่คลายเร็ว แต่ต้องจับตาสถานการณ์ในยุโรป และตะวันออกกลาง หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ตามที่คาดการณ์ไว้การบินไทยได้วางแผนและเพิ่มระดับมาตรการรับมืออย่างเข้มข้นต่อไป


ส่วนผลการดำเนินงานของการบินไทยและบริษัทย่อยในปี 62 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 184,046 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 15,454 ล้านบาท หรือ 7.7% อย่างไรก็ตาม แต่ในปี 2562 บริษัทฯ มีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายรวม 196,470 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 12,088 ล้านบาท หรือลดลง 5.8% ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 12,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% เทียบกับปี61 ขาดทุนสุทธิ 11,625 ล้านบาท


ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนนั้น เนื่องมาจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ภัยธรรมชาติ การแข็งค่าของเงินบาทที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง บริษัทฯ ต้องหยุดบินในบางเส้นทางจากเหตุการณ์ปิดน่านฟ้าของสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน การประท้วงในฮ่องกง และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ในช่วงปลายปี 62 ประกอบกับมีการรับรู้ค่าชดเชยตามประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจาก 300 วันเป็น 400 วัน โดยการบินไทยและบริษัทย่อยมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) ลดลง 2.7% ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ลดลง 0.9% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.1% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 77.6% และจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 24.51 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.8%

ส่วนความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) นั้นกำหนดการยื่นข้อเสนอของเอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนภายในวันที่ 6 มี.ค. 63 และจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเอกสารและประเมินข้อเสนอของคณะกรรมการคัดเลือกต่อไป ส่วนแผนจัดหาเครื่องบิน คาดว่าจะจัดทำแล้วเสร็จพร้อมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้ภายในเดือน มี.ค.63



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews