Phones





GULFรายได้ปีนี้โต10% ย้ำปี68แตะ1.4แสนล.

2020-03-03 11:26:32 1648




นิวส์ คอนเน็คท์ - GULF เปิดแผนรายได้ปีนี้โต 10% ย้ำปี 68 วิ่งสู่ 1.4 แสนล้านบาท หลังทุกโครงการเดินเครื่องเต็มกำลัง

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 10% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 33,000 ล้านบาท จากการรับรู้โรงไฟฟ้าไบโอแมส กำลังผลิต 25 MW ที่จ่ายไฟเข้าระบบในช่วงเดือน มี.ค.นี้ และในปลายปี โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนามจะจ่ายไฟเข้าระบบอีก 30 MW และรับรู้รายได้แบบเต็มปีของโรงไฟฟ้าประเภท SPP ทั้งหมด 12 แห่งที่เปิดดำเนินการครบแล้ว 1,563 MW


รวมถึงรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่เวียดนาม ที่จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว 120 MW ขณะนี้บริษัทยังคงอยู่ระหว่างหาโครงการลงทุนใหม่ๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ LNG ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตสูงสุดจำนวน 6,000 MW รวมถึงโครงการก่อสร้างคลังจัดเก็บกีาซ LNG ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการพิจารณาที่ทางรัฐบาลเวียดนามจะบรรจุ


นอกจากนี้บริษัทยังประมาณการว่าปี 2568 จะมีรายได้เติบโตก้าวกระโดดขึ้นสู่ระดับ 140,000 ล้านบาท หลังจากที่จะมีโรงไฟฟ้าที่ทยอยจ่ายไฟเข้าสู่ระบบตามแผนที่วางไว้ โดยในปี 64 รายได้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งคาดรายได้จะเติบโตประมาณ 50,000 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้า GSRC ขนาดกำลังการผลิต 2,500 MW จ่ายไฟเข้าระบบ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 310 MW รวมถึงโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่โอมาน 326 MW จ่ายไฟเข้าระบบในปี 65 และจากนั้นในปี 66 โรงไฟฟ้า IPP ที่ปลวกแดง ขนาดกำลังการผลิต 2,500 MW จ่ายไฟเข้าระบบ จนถึง 68 โรงไฟฟ้าหินกอง ขนาดกำลังการผลิต 1,400 MW จ่ายไฟเข้าระบบครบทั้ง 2 แห่ง


ทั้งนี้โครงการท่อยู่ในแผน PDP ของเวียดนาม คาดจะมีการพิจารณาในช่วงไตรมาส 3/63 รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ประเทศลาวร่วมกับพันธมิตรที่ประเทศจีน ขนาดกำลังการผลิตสูงสุด 2,400 MW โดยบริษัทมีแผนที่จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 30% โดยโครงการนี้จะทำสัยญาและขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

อีกทั้งในปี 63 บริษัทจะใช้เงินลงทุน 36,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นเงินลงทุนในส่วนทุนจากบริษัทประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับแผนการลงทุนในช่วง 7 ปี (63-69) จะมีการลงทุน 140,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินส่วนทุนที่บริษัทจะต้องใช้ จำนวน 40,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทในแต่ละปีที่คาดว่าจะทำได้ 10,000 ล้านบาท หลังจากที่โรงไฟฟ้าประเภท IPP ขนาดกำลังการผลิต 5,000 MW จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว สำหรับอัตราหนี้สินต่อทุนปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.57 เท่า และในปี 64-65 มีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.5-2.6 เท่า หลังจากที่บริษัทจะใช้เงินกู้เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า IPP และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งบริษัทมีนโยบายจะควบคุมไม่ให้เกิน 3.5 เท่า รวมถึงขณะนี้ยังไม่มีแผนเพิ่มทุน


นอกจากนี้บริษัทยังได้อยู่ระหว่างเจรจากับรัฐบาลโอมานเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เช่นโซลาร์ ฟาร์ม และพลังงานลม ขนาดกำลังการผลิต 2,000 MW ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานจากก๊าซธรรมชาติที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งขายไฟให้กับโรงกลั่นน้ำมัน


อีกทั้งในช่วงกลางปี 63 บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้เงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลใช้ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น โรงไฟฟ้าประเภท IPP จำนวน 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิต 5,000 MW และโครงการโครงสร้างพื้นฐานมาบตาพุดเฟส3-มอเตอร์เวย์ รวมถึงโรงไฟฟ้าที่โอมาน และเวียดนาม



>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews