Phones





TMBควงTBANKเข้ามุ้ง-ปิดดีลมหากาพย์ควบรวม

2019-08-13 10:28:23 200




นิวส์ คอนเน็คท์ – TMB – TBANK เดินหน้าแผนรวมกิจการ คาดดำเนินการแล้วเสร็จกลางปี 64 ส่งผลให้มีขนาดสินทรัพย์รวมกันแตะ 2 ล้านล้านบาท และฐานลูกค้ารวมกันกว่า 10 ล้านราย TMB เตรียมเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเดือน ก.ย.นี้ อนุมัติแผนรวมกิจการ ด้าน TCAP ยืนยันไม่มีแผนปลดพนักงาน


นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า แผนการรวมกิจการระหว่าง TMB และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK นั้น หลังจากนี้จะมีการดำเนินการในส่วนของการปรับโครงสร้างของ TBANK และ TMB จะดำเนินการในส่วนของการเพิ่มทุน โดยคาดว่าการรวมกิจการของ TMB และ TBANK จะเสร็จเรียบร้อยในช่วงกลางปี 64 ส่วนเรื่องชื่อของธนาคารใหม่จากการรวมกิจการยัง อยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน


ทั้งนี้ โครงสร้างสัดส่วนผู้ถือหุ้นหลักหลังจากการรวมกิจการเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เบื้องต้นจะประกอบด้วย ING ถือหุ้น 21.3% ทุนธนชาต (TCAP) ถือหุ้น 20.4% กระทรวงการคลังถือหุ้น 18.4% สโกเทียแบงก์ (BNS) ถือหุ้น 5.6% และผู้ถือหุ้นรายย่อย 34.3% โดยประมาณเดือนก.ย.62 TMB จะมีการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อขออนุมัติรายการที่เกี่ยวข้องกับการรวมกิจการ รวมถึงการเพิ่มทุนในการจัดหาเงินทุนเข้าเสนอซื้อหุ้นสามัญของ TBANK จากผู้ถือหุ้น TBANK ทุกราย โดย TMB จะจัดหาเงินทุนรวมทั้งสิ้น 130,000 ล้านบาท


สำหรับเงินทุนจำนวน 130,000 ล้านบาทนั้น จะแบ่งเป็นการการออกและเสนอขายตราสารหนี้ราว 9,600-16,000 ล้านบาท และอีกส่วนจะมาจากตราสารด้อยสิทธิอีกราว 15,000 ล้านบาท รวมทั้งธนาคารจะดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 42,500 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ผ่านการออกใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ TMB โดยกำหนดราคาใช้สิทธิ TSR ที่ 1.35-1.6 บาทต่อหุ้น   


นอกจากนี้ ธนาคารจะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนวงเงิน 64,000 ล้านบาทให้แก่นักลงทุนทั่วไปที่ราคา 1.1 เท่าของราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี ภายหลังการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตาม TSR โดยแบ่งเป็นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ให้แก่นักลงทุนใหม่ 6,400 ล้านบาท และอีก 57,600 ล้านบาทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารธนชาตทุกราย   


“ราคาที่เสนอซื้อหุ้น TBANK จะเสนอซื้อบุ๊กแวลู่ บวกกับพรีเมี่ยมอีกราว 9 พันล้านบาทจากธุรกิจโบรกเกอร์ประกันและบลจ. ซึ่งขั้นตอนการซื้อขายหุ้นทั้งหมดจะเสร็จเรียบร้อยประมาณเดือนธ.ค.62 หรือม.ค.63 ส่วนการรวมกิจการจะเสร็จเรียบร้อยกลางปี 64 จึงอยากจะบอกผู้ถือหุ้นทุกรายว่า ให้เตรียมพร้อมสำหรับการเพิ่มทุน มั่นใจว่าได้เลยว่า ดีลนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ถือหุ้นแน่นอน” นายปิติ กล่าว



ขณะที่นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร TCAP กล่าวว่า การรวมกิจการระหว่าง TMB กับ TBANK จะทำให้เกิดธนาคารที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าตัว โดยมีสินทรัพย์รวมกันเกือบ 2 ล้านล้านบาท มีโครงสร้างทางธุรกิจและความชำนาญ ซึ่งเสริมรับซึ่งกันและกัน รวมทั้งจะทำให้มีฐานลูกค้ารวมทั้ง 2 ธนาคารมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งมีการทับซ้อนของฐานลูกค้าไม่ถึง 10% ทำให้เป็นโอกาสในการขยายตลาดได้มากขึ้น ซึ่งจากขนาดธุรกิจที่ใหญ่มากขึ้น จึงยืนยันว่าจะไม่มีการปลดพนักงานอย่างแน่นอน


ด้านนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP กล่าวว่า การรวมกิจการครั้งนี้จะทำให้ TCAP ได้รับเงินเข้ามาราว 8 หมื่นล้านบาท จากการขาย TBANK ให้กับ TMB หลังจากนั้น ทาง TCAP จะนำเงินเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TMB คิดเป็นวงเงินราว 4.52 หมื่นล้านบาท และจะใช้ดำเนินการในส่วนของบริษัทลูกของ TBANK อีกราว 1.8 หมื่นล้านบาท โดยจะทำให้ TCAP เหลือเงินที่ได้จากการขายหุ้น TBANK อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งพิจารณานำไปลงทุน หรือใช้ประโยชน์เรื่องอื่นๆ ที่เป็นผลบวกต่อผู้ถือหุ้น TCAP