นิวส์ คอนเน็คท์ - SJWD จับมือ ‘SWIFT’ พาร์ทเนอร์ในมาเลเซีย จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ‘Swift Cold Chain Sdn Bhd’ ทุนจดทะเบียนราว 110 ล้านบาท โดย SJWD ถือหุ้น 49% เดินหน้ายุทธศาสตร์ขยายธุรกิจ “คลังสินค้าห้องเย็น” ในระดับภูมิภาค เชื่อมต่อโลจิสติกส์และซัพพลายเชนใน

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนยุทธศาสตร์รุกขยายธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในระดับภูมิภาค เพื่อเชื่อมต่อการให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในอาเซียน จากปัจจุบันที่มีฐานธุรกิจในประเทศไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในมาเลเซียที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

ทั้งนี้ ภายหลังบริษัทได้เข้าลงทุนถือหุ้น 20.48% ในบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT (สวิฟท์) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจ Integrated Logistics ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซียเมื่อต้นปี 2567 ล่าสุด บริษัทได้ผสานความร่วมมือกับ SWIFT จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในมาเลเซียภายใต้ชื่อ Swift Cold Chain Sdn Bhd มีทุนจดทะเบียน 14.4 ล้านริงกิต หรือประมาณ 110 ล้านบาท โดย SJWD จะถือหุ้น 49% ผ่านการลงทุนโดยบริษัท JWD Asia Holding Private Ltd. (JWDAH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SJWD และ SWIFT จะถือหุ้น 51%

โดยคาดว่าการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนจะแล้วเสร็จภายในเดือนม.ค. 2568 จากนั้นจะร่วมกันลงทุนธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในประเทศมาเลเซีย เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการในท้องถิ่น และผู้ประกอบการในไทยที่ต้องการส่งออกหรือดำเนินธุรกิจในมาเลเซีย เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, ยาและเวชภัณฑ์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะเพิ่มศักยภาพแก่ SJWD ให้สามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าจากจีน - ไทย - มาเลเซีย - สิงคโปร์ ได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น

ด้านนายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD กล่าวว่า ปัจจุบันได้วางแผนร่วมกับ SWIFT ลงทุนคลังสินค้าห้องเย็นในมาเลเซีย 3 โครงการ มีพื้นที่รวมกว่า 3 หมื่นตารางเมตร โดยโครงการแรกจะเริ่มพัฒนาทันทีหลังจากจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จ ภายใต้ชื่อโครงการ GVL Cold Chain มีพื้นที่ประมาณ 1.1 หมื่นตารางเมตร รองรับการจัดเก็บสินค้าได้ประมาณ 1 หมื่นพาเล็ต ตั้งอยู่ในพื้นที่ Shah Alam International Logistics Hub (ชาห์ อลัม อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ ฮับ) ทางตอนกลางมาเลเซีย ห่างจากเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 30 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือกลังประมาณ 16 กิโลเมตร จะใช้งบลงทุนกว่า 287 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการภายในเดือนมกราคม 2569 และมีอัตราการเช่าพื้นที่แตะ 90% ภายในระยะเวลา 2-3 ปี

สำหรับโครงการที่ 2 อยู่ระหว่างการวางแผนลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นพื้นที่ประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร รองรับการจัดเก็บสินค้าได้ประมาณ 1 หมื่นพาเล็ต ตั้งอยู่ภายในเมืองโจโฮร์บะฮ์รู ทางตอนใต้ของประเทศซึ่งมีพื้นที่ติดกับสิงคโปร์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ส่วนโครงการที่สามอยู่ระหว่างการวางแผนลงทุน คาดว่าจะมีพื้นที่ประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร

“จากแผนงานขยายการลงทุนคลังสินค้าห้องเย็นในมาเลซียดังกล่าว จะทำให้บริษัทฯ ก้าวสู่ผู้ให้บริการชั้นนำในมาเลเซีย โดย SJWD จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในไทย ร่วมกับ SWIFT ขยายธุรกิจเพื่อก้าวเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมดังกล่าวในมาเลเซีย” นายชวนินทร์ กล่าว

Mr. Loo Yong Hui, Group CEO of Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ SWIFT ในการรุกเข้าสู่ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและการเติบโตอย่างรวดเร็ว ภายใต้การผสานความเชี่ยวชาญของ SJWD กับกลยุทธ์การขยายทรัพย์สินของ SWIFT จะทำให้บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการใช้บริการคลังสินค้าห้องเย็นที่เพิ่มขึ้นในมาเลเซียและสิงคโปร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือของบริษัทฯ กับ SJWD ไม่เพียงแต่จะสร้างการเติบโตแก่ธุรกิจ แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรม รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีขั้นสูงของระบบการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินค้าแบบอัตโนมัติของธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นมาใช้ เพื่อให้สามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SWIFT นอกจากนี้ ยังเพิ่มศักยภาพการให้บริการของ SJWD ในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเซนรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ทั้งการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร นวัตกรรม และโซลูชันอย่างยั่งยืนสู่ภูมิภาค

นอกจากนี้ บริษัทมองว่าการร่วมทุนนี้เป็นโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพย์สินของบริษัทในเตเบรา (Tebrau) และชาห์ อลัม (Shah Alam) ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพต่อการกระจายสินค้าในธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยโครงการในเตเบรา จะรองรับความต้องการจำนวนมากจากตลาดสิงคโปร์ โดยใช้ความได้เปรียบด้านต้นทุน ขณะที่โครงการในชาห์ อลัม จะรองรับความต้องการจากในเขตเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้วางกลยุทธ์การใช้ทรัพย์สินกับความสามารถของ SJWD เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างมาตรฐานใหม่แก่ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในมาเลเซียและสิงคโปร์