Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
PTECH เร่งเครื่องธุรกิจ แย้มผลงานครึ่งปีหลังสดใส
MAI
MMM ปิดจอง PO เตรียมเทรด mai 7 พ.ย.
IPO
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ‘TEBP’ ขาย IPO 90 ล้านหุ้น
บล./บลจ
กบข. ผนึกกำลังจุฬาฯ ปั้นนักลงทุนรุ่นใหม่
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
วิจัยกรุงศรี จับสัญญาณกนง.หั่นดอกเบี้ย หนุนศก.ฟื้น
การค้า - พาณิชย์
คต. หนุนผู้ส่งออกใช้ ‘Self-Certification’ หวังรับสิทธิพิเศษทางการค้า
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ฟร้อนท์ไลน์ฯ เดินหน้าสู่ผู้นำการจัดการน้ำครบวงจร
คมนาคม - โลจิสติกส์
SO คว้า 4 ดาว CGR ปี 68
แบงก์ - นอนแบงก์
ออมสินปลื้ม! GSB SAVINGS FORUM คนล้น-กิจกรรมแน่น
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
PUEAN ชำระคืนหุ้นกู้ตามนัด ลุยดันพอร์ตสินเชื่อแตะพันล้าน
SMEs - Startup
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
ประกันภัย - ประกันชีวิต
คปภ. ประกาศความสำเร็จ “InsurTech Summit 2025” ปีที่ 2
รถยนต์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้อุตฯรถยนต์ – ชิ้นส่วน ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า
ท่องเที่ยว
GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารไร้คนขับครั้งแรกในไทย เจาะตลาดการท่องเที่ยว
อสังหาริมทรัพย์
SCB EIC มองภาคการก่อสร้าง-วัสดุก่อสร้างปี 69 หดตัว
การตลาด
AEROFLEX ชวนสัมผัส “ความเย็นที่รู้สึกได้ ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้จริง”
CSR
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
Information
EXIM BANK พบปะหารือ BOI ยกระดับมาตรฐานการผลิตของประเทศสู่การผลิตขั้นสูง
Gossip
MTC คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”
Entertainment
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดเยาวชนต่อยอดบอลที่สหรัฐฯ
สกุ๊ป พิเศษ
ATLAS หุ้นเด่น! LPG นวัตกรรมสุดล้ำ
เดอะวิสดอมกสิกรไทย จับมือ K WEALTH แนะจัดพอร์ตลงทุนปี 68
2025-02-25 20:44:03
171
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - เดอะวิสดอมกสิกรไทย ร่วมกับ K WEALTH จัดเสวนารูปแบบพิเศษ ในหัวข้อ Investment Strategies for 2025: Thriving in the Trump-Inspired Global Economy แนะจัดสัดส่วนเงินลงทุนส่วนใหญ่ใน CORE Portfolio ที่กระจายการลงทุนทั่วโลก และเพิ่มโอกาสลงทุนใน SATELLITE ผ่านกองทุนตราสารหนี้เอกชน รวมทั้งกองทุนหุ้นสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนในตลาดโลกที่มีความผันผวนต่อเนื่อง เดอะวิสดอมกสิกรไทย พร้อมให้บริการพิเศษด้านการลงทุนในทุกมิติ เพื่อบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าเดอะวิสดอมกสิกรไทย โดยได้ร่วมกับ K WEALTH จัดเสวนาพิเศษ THE WEALTH MASTER ในภูมิภาคต่างๆ เป็นประจำ ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก K WEALTH ร่วมวิเคราะห์และวางกลยุทธ์บริหารพอร์ตลงทุนแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ลูกค้าแบบส่วนตัว เพื่อเสริมเสถียรภาพของพอร์ตให้แข็งแกร่ง และตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2568 มาพร้อมกับความท้าทายใหม่จากนโยบายของโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กลับมาตอกย้ำและสานต่อแนวทาง “America First” ผ่านมาตรการกีดกันการค้าและนโยบายการต่างประเทศที่เข้มงวด พร้อมๆ กับการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศผ่านการลดภาษีและผ่อนคลายกฎเกณฑ์การทำธุรกิจ ในขณะที่จีนยังเผชิญกับความพยายามในการพลิกฟื้นความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและครัวเรือนผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเข้ามาช่วยประคับประคองเศรษฐกิจจีนในปี 2568 การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงจะเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่นโยบายหลักของสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกระทบชัดเจน
ด้านนางสาวศิริพร สุวรรณการ CFA, CFP® Chief Investment Officer K WEALTH ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปีนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวต่อเนื่องได้ราว 2.4% จากการบริโภคที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ดี แนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลงจะเปิดทางให้ FED ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 0.50% สู่ระดับ 3.75%-4.00% ทั้งนี้ การผลักดันนโยบาย “American First” อย่างเข้มข้นของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ที่มุ่งเน้นความรุ่งเรืองในประเทศจะสร้างแรงกดดันให้กับประเทศคู่ค้า และเป็นที่หวั่นวิตกทั่วโลกว่า อาจเป็นชนวนไปสู่สงครามการค้าระลอกใหม่
โดย 3 นโยบายหลักที่ทรัมป์เร่งดำเนินการ ได้แก่ 1.นโยบายผลักดันผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ “Back to Their Places” ด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางตอนใต้ระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก พร้อมส่งทหารควบคุมพรมแดนแบบเต็มรูปแบบป้องกันการลักลอบเข้าเมืองและเนรเทศผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย, 2.นโยบายภาษีศุลกากร “America First Trade Policy” จากแนวทางของทรัมป์ที่เตรียมขึ้นกำแพงภาษีเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศและแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่สินค้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดผู้นำได้ร่วมกันหาทางออกชั่วคราว โดยทั้งแคนาดาและเม็กซิโกต่างตอบรับข้อเรียกร้องของทรัมป์ในการปรับปรุงมาตรการควบคุมความมั่นคงชายแดน เพื่อปราบปรามปัญหาผู้อพยพและยาเสพติด
3.นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม “Drill Baby, Drill” ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ ส่งเสริมการสำรวจและผลิตพลังงาน เน้นนโยบายขุดเจาะน้ำมันครั้งใหญ่ และเตรียมยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เพื่อทำให้อุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐกลับมาแข็งแกร่ง และทำให้ต้นทุนด้านพลังงานถูกลง พร้อมกันนี้ ทรัมป์ ได้ลงนามถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement) ซึ่งการถอนตัวครั้งนี้ จะกระทบเป้าหมายของข้อตกลงการลดก๊าซเรือนกระจกและจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์และแรงกดดันในภาคส่งออกจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ คาดเศรษฐกิจจีนเติบโตได้เพียง 4.3% โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก และแม้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่อาจพยุงเศรษฐกิจได้ในระยะสั้นเท่านั้นจนกว่าความเชื่อมั่นจะกลับมา สำหรับประเทศไทย คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.4% จากแรงส่งในภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงและแรงกดดันในภาคส่งออกจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่เป็นคู่ค้าหลักของไทย และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 0.50% สู่ระดับ 1.75% ในส่วนของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2568 จะได้แรงหนุนการบริโภคในระยะสั้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น Easy E-receipt และโครงการเติมเงินผ่าน Digital Wallet
ทั้งนี้ K WEALTH มองปี 2568 เป็นปีที่ดีต่อการลงทุน โดยมีแรงสนับสนุนจาก 1.เศรษฐกิจโลกที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่ำ, 2.ฐานะการเงินและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในเกณฑ์ดี, 3.อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงตามทิศทางเงินเฟ้อ, 4.เศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งสหรัฐฯ และจีน มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และ 5) เงินลงทุนจะโยกย้ายออกจากตราสารการเงินระยะสั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง เพื่อแสวงหาโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
สินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจ
โดยกองทุนรวมตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ (Fixed Income Fund) เน้นตลาดหุ้นกู้บริษัทเอกชนเพราะผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งเศรษฐกิจที่ดีจะลดความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) เน้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่งรวมทั้งกำลังสนับสนุนจากนโยบาย American First สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ การเงิน และการบริโภค
อย่างไรก็ตาม การลงทุนทั่วโลกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 ทำให้มีโอกาสเกิดแรงขายเป็นระยะ หากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจหรือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าคาด พร้อมกันนี้ ยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายของสหรัฐฯ รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่จะสร้างความผันผวนให้ราคาสินทรัพย์ตลอดทั้งปี การจัดพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของนักลงทุนจึงยังเป็นปัจจัยที่ห้ามมองข้าม
PTECH เร่งเครื่องธุรกิจ แย้มผลงานครึ่งปีหลังสดใส
CH คว้าคะแนน CGR 4 ดาว ระดับ “ดีมาก” ต่อเนื่องปีที่ 2
BANPU ปรับทัพใหญ่ควบรวม BPP - IND คว้างานใหม่ รฟม. Backlog พุ่ง 2.34 พันล.
BANPU ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ควบรวม BPP
PTG สุดปลื้ม! คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”
10 เรื่องน่ารู้ “ATLAS” หุ้นดีที่ต้องมีติดพอร์ต