Phones





GUNKUL โชว์กำไรปี 67 พุ่ง 1.66 พันล.โตเฉียด 13%

2025-02-28 08:36:00 130



นิวส์ คอนเน็คท์ - GUNKUL ประกาศผลดำเนินงานปี 67 กำไรสุทธิ 1,661.08 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 12.62% รายได้รวม 9,731.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.42% รับอานิสงส์จากธุรกิจงานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และรับรู้รายได้จากธุรกิจ EPC เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนสดใส ลุยพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพ มั่นใจอนาคตธุรกิจสดใสตามแผน PDP ที่ยังมีการประมูลโครงการเพิ่ม หนุนผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานงวดปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรการดำเนินงานตามปกติของกิจการจำนวน 1,661.08 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,474.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.19 ล้านบาท หรือ 12.62% ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 9,731.24 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 7,697.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,033.67 ล้านบาท คิดเป็น 26.42%

สาเหตุเนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 4/2567 เทียบกับไตรมาส 4/2566 เติบโตค่อนข้างมากเกือบ 4 เท่า หรือสูงถึง 395% จากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจการขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า เช่น SF6 Gas Switch, Surge Arrester และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกทั้งมีรายได้จากกลุ่มงานก่อสร้างและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ  

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับรับโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มและโครงการพลังงานลม ซึ่งช่วงปลายปี 2567 บริษัทฯ ได้ผ่านคุณสมบัติและได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 319 เมกะวัตต์ ทั้งโครงการพลังงานลมและโครงการโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพิ่มเติม โดยบริษัทฯ คาดว่าจะได้เมกะวัตต์ส่วนนี้เข้ามาเพิ่มเติมในพอร์ตถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ที่จะสามารถขยายธุรกิจไปในส่วนของพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้านงานก่อสร้างบริษัทฯ ยังมีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่มเติมทั้งในส่วนของงานสายส่งและสถานีในส่วนของโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ตามแผน PDP ใหม่ อีกทั้งภาคเอกชนมีการสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพื่อใช้ในกิจการของตัวเอง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่จะมีรายได้ในส่วนของพลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามา  

ขณะที่ Trading และ Manufacturing บริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในระบบ 115 Kv รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่บริษัทยังไม่เคยทำเพื่อรองรับการเติบโตในระบบส่งและระบบจำหน่ายต่อไปในอนาคต

สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 เชื่อว่า ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากภาพรวมตลาดยังมีศักยภาพทั้งงานจากโครงการพลังงานทดแทนรอบใหม่ และงานของภาครัฐที่มีงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมตามความต้องการใช้ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หลักๆ มาจากการรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และเทรดดิ้งอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า  

ขณะที่เป้าหมายการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการพัฒนาโครงการพลังงานทั้งโครงการลม และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 832 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศที่จะเพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีส่วนของในงานมือ (Backlog) งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และงานบริการก่อสร้างที่มีอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท คาดว่าในปี 2568 จะมีโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆ ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลทำให้งานในมือเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าจะมีการใช้เงินลงทุนในส่วนทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทในอีก 5 ปี โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมรองรับการเติบโตในทุกด้าน เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง