Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
BAM เดินหน้ากลยุทธ์ 3P ก้าวสู่ฮับธุรกิจ AMC - MGC-ASIA ปลื้ม! 'XPENG X9' ทะลุเป้า
MAI
FLOYD ขานรับโครงการ JUMP+
IPO
MMM ฮอต! เปิดจองวันแรก นลท. แห่จอง PO เพียบ
บล./บลจ
“โกลเบล็ก” ระบุราคาทองคำยังน่าจับตา!
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
วิจัยกรุงศรี จับสัญญาณกนง.หั่นดอกเบี้ย หนุนศก.ฟื้น
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์ดันข้าวไทยในงาน Anuga 2025 พร้อมลุยตลาดยุโรป
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ฟร้อนท์ไลน์ฯ เดินหน้าสู่ผู้นำการจัดการน้ำครบวงจร
คมนาคม - โลจิสติกส์
TRUE คลอดหุ้นกู้ 4 ชุดใหม่ รองรับแผนลงทุนในอนาคต
แบงก์ - นอนแบงก์
SME D Bank หนุนเอสเอ็มอีไทยเต็มกำลัง สอดรับนโยบาย ‘Quick Big Win’
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
กรุงศรี ออโต้ หนุนสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า ส่งข้อเสนอพิเศษส่งท้ายปี
SMEs - Startup
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
ประกันภัย - ประกันชีวิต
อลิอันซ์ อยุธยา ลั่นกลองรบตลาดยูนิตลิงค์ เปิดตัว 5 กองทุนใหม่
รถยนต์
MGC-ASIA รับข่าวดี “XPENG X9” ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้า MPV
ท่องเที่ยว
GCAP เปิดตัวโดรนโดยสารไร้คนขับครั้งแรกในไทย เจาะตลาดการท่องเที่ยว
อสังหาริมทรัพย์
BAM เปิดฉากสัมมนาใหญ่แห่งปี ‘BAM SYMPOSIUM : New Era of AMC 2025
การตลาด
CardX ผนึก 9 โรงพยาบาลชั้นนำ ส่งแคมเปญ “มั่นใจทุกการรักษา”
CSR
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
Information
วิริยะประกันภัย ส่งต่อพลังการศึกษาสู่เยาวชนภาคอีสาน
Gossip
ATLAS ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์
Entertainment
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดเยาวชนต่อยอดบอลที่สหรัฐฯ
สกุ๊ป พิเศษ
ATLAS หุ้นเด่น! LPG นวัตกรรมสุดล้ำ
TSR เคลียร์! ทุกข้อสงสัย กรณีผู้สอบไม่แสดงความเห็นต่องบปี 67
2025-04-04 17:09:36
400
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - TSR ร่อนหนังสือแจงตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีผู้สอบไม่แสดงความเห็นต่องบปี 67 หลังกลุ่ม SABUY คุมอำนาจการบริหาร สร้างหนี้ - ธุรกิจไม่เป็นไปตามแผน พบขาดทุน 715 ล้านบาท และต้องตั้งสำรองด้อยค่าลูกหนี้ เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบความโปร่งใสการบริหารงาน ลั่นพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย เร่งเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สถาบันการเงิน-ตัดขายสินทรัพย์บางส่วน เดินหน้าหาพันธมิตรร่วมลงทุน
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสอาร์ ลิฟวิ่ง โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TSR เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อชี้แจงกรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น เนื่องจากความไม่แน่นอนในสาระสำคัญของการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีงบการเงินปี 2567 มีผลขาดทุน 715 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสะสม 945 ล้านบาท
โดยมีสาระสำคัญใน 4 ประเด็นดังนี้
1.ปัจจัยที่ใช้พิจารณาเพื่อบ่งชี้การด้อยค่าความนิยมทั้งจำนวนของธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในระยะเวลาอันสั้น และปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาลงทุนและความแตกต่างของผลประกอบการภายหลังการเข้าลงทุน โดย TSR ขอเรียนว่า ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เป็นธุรกิจของบริษัท เวนดิ้ง คอนเน็กซ์ เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัท SABUY ในช่วงเวลาดังกล่าว SABUY ได้แต่งตั้งกรรมการเข้ามาทำหน้าที่บริหาร โดยมีปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาลงทุน 1.เพื่อขยายการดำเนินธุรกิจในกลุ่ม Connext 2.เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ของธุรกิจ Vending Machine และ 3.กลุ่มบริษัทสามารถขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ Location บางตำแหน่งที่กลุ่มบริษัทยังไม่เคยเข้าถึง
ภายใต้การนำเสนอของกรรมการกลุ่ม SABUY ที่บริหารงานอยู่ในขณะนั้น ได้นำเสนอแผนงานและการดำเนินงานเกี่ยวกับตู้สินค้าทั้งหมด ทำให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ทำรายการในวงเงินไม่เกิน 320 ล้านบาท โดยภายหลังจากอนุมัติให้ทำรายการดังกล่าวแล้ว บริษัทจึงได้เข้าทำรายการซื้อตู้สินค้าจากบุคคลภายนอก และได้ก่อตั้งบริษัท เวนดิ้ง คอนเน็กซ์ เทค จำกัด มาประกอบธุรกิจโดยตรง โดยการประกอบธุรกิจดังกล่าว ตกอยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารและบุคลากรจากกลุ่ม SABUY ทั้งในส่วนของการสั่งซื้อสินค้า การเติมสินค้าเข้าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ การบริหารเจ้าหนี้การบริหารคลังสินค้า ทั้งในส่วนของสินค้าคงเหลือและตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และการเก็บเงินตามตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งจากการบริหารงานโดยผู้บริหารและบุคลากรจากกลุ่ม SABUY ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 ถึงเดือนกรกฎาคม 2567 นั้น ทำให้บริษัทย่อยประสบปัญหาสภาพคล่อง มีกระแสเงินสดที่ไม่เพียงพอ ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และ SABUY ได้สูญเสียอำนาจในการควบคุมบริษัทโดยตรง ส่งผลให้แผนธุรกิจและทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง โดยผู้บริหารชุดใหม่ได้มีการพิจารณาเห็นว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อยดังกล่าวไม่สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท จึงได้มีการเจรจา เพื่อขอส่งมอบธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทั้งหมดให้กับ SABUY แต่การเจรจาไม่บรรลุผล ทำให้บริษัทต้องประกอบธุรกิจ และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับรูปแบบของกลุ่มบริษัทต่อไป
2. ที่มาและสาเหตุของการพิจารณาตั้งด้อยค่าลูกหนี้ 4 ธุรกิจ ได้แก่ ขายตรงและตัวแทนจำหน่าย, ดิจิทัลออนไลน์และขายทางโทรศัพท์, ค้าปลีกและตัวแทนร้านค้า และธุรกิจองค์กร จะมีการพิจารณาการตั้งด้อยค่าตามประเภทของการให้สินเชื่อ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ ลูกหนี้เงินให้สินเชื่อ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น
ในส่วนของ 1.ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ มีหนี้สูญ/เครื่องที่ยึด มูลค่า 331 ล้านบาท ค่าเผื่อสงสัยจะสูญ 82 ล้านบาท รวม 413 ล้านบาท 2.ลูกหนี้เงินให้สินเชื่อ ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ รวม 41 ล้านบาท เป็นลูกหนี้ในเครือของ SABUY เดิมจำนวนกว่า 30 ล้านบาท (ปัจจุบันไม่ใช่บริษัทในเครือของ SABUY) และ 3.ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ รวม 38 ล้านบาท เป็นลูกหนี้ในเครือของ SABUY เดิมจำนวนกว่า 23 ล้านบาท (ปัจจุบันยังเป็นบริษัทในเครือของ SABUY) รวม 492 ล้านบาท
สำหรับการตัดหนี้สูญของลูกหนี้ที่ค้างนาน บริษัทได้ติดตามทวงถามและบอกเลิกสัญญาแล้ว ซึ่งหลักๆ จะเป็นในส่วนของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อของกิจการ จากเดิมในช่วงปี 2566 การพิจารณาความเหมาะสมของการตัดหนี้สูญมีการกำหนดโดยผู้บริหารที่มาจาก SABUY ซึ่งมีการตัดหนี้สูญน้อยกว่าอดีตที่ผ่านมา และการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ มีการคำนวณตามหลักของ TFRS9 โดยหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในช่วงกลางปี 2567 จึงได้มีการจัดทำนโยบายการตัดหนี้สูญและปรับใช้ให้เหมาะสมและสอดคล้องครอบคลุมกับสภาพลูกหนี้ในปัจจุบัน ทำให้มีผลกระทบต้องบันทึกเพิ่มเติมจากที่ทาง SABUY บันทึกในปี 2566 กว่า 85 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของลูกหนี้ที่เป็นบริษัทในเครือของ SABUY รวมจำนวน 53 ล้านบาท ไม่ได้มีการติดตามทวงถามหนี้อย่างเหมาะสมในช่วงการบริหารงานของกรรมการจากกลุ่ม SABUY แต่ในปัจจุบันทางบริษัทได้มีการติดตามทวงถามตามกระบวนการที่เหมาะสมแล้ว
3. สรุปการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัท ณ ปัจจุบัน และธุรกรรมที่ยังคงมีกับผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม (SABUY) โดยขอให้อธิบายประเด็นที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (ถ้ามี) รวมถึงผลกระทบเกี่ยวกับการพิจารณาตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้อยค่าเพิ่มเติม
ปัจจุบันได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เช่าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่มีประเด็นที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับ SABUY เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ บริษัทได้ปรับรูปแบบเป็นการให้เช่าตู้ ประกอบกับปัจจุบันไม่มีผู้บริหารหรือกรรมการจากกลุ่ม SABUY มาร่วมบริหารแล้ว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ธุรกรรมที่ยังคงมีกับ SABUY ได้แก่ 1.ยอดเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวนเงิน 873 ล้านบาท และดอกเบี้ยค้างจ่ายจำนวนเงิน 73 ล้านบาท รวมจำนวน 946 ล้านบาท 2.สินทรัพย์มูลค่า 175 ล้านบาท ใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินให้ SABUY ได้แก่ 2.1 สินทรัพย์ทางการเงินจำนวน 11.05 ล้านหุ้น จำนวน 7 ล้านบาท นำไปค้ำประกันวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งให้ SABUY 2.2 อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 51 ล้านบาท และที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จำนวน 117 ล้านบาท รวมมูลค่า 168 ล้านบาท นำไปค้ำประกันวงเงินกู้ยืมระยะยาวกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งให้ SABUY
และประเด็นที่ 4.ความคืบหน้าของการเจรจาแนวทางการแก้ไขปัญหา และมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้กับผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม (SABUY) สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้ต่าง ๆ รวมทั้งการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อชำระหนี้ดังกล่าว
หนี้สินกับสถาบันการเงินและเจ้าหนี้ต่างๆ ทางบริษัทได้ดำเนินการเจรจา เพื่อขอปรับเงื่อนไขและระยะเวลาในการชำระหนี้ รวมถึงขอผ่อนปรนเงื่อนไขตามสัญญาเงินกู้ เพื่อจัดหาแหล่งเงินมาชำระหนี้ รวมทั้งได้พิจารณาขายทรัพย์สินบางส่วน นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับสถาบันการเงินบางแห่ง เพื่อขอ refinance และหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท
สำหรับหนี้สินกับ SABUY ซึ่งเดิมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้น เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 คณะกรรมการของ SABUY ได้มีมติเห็นชอบในการขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยค้างจ่าย และดอกเบี้ยในอนาคต ให้กับบริษัทจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 แต่เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 กลับมีหนังสือแจ้งยกเลิกความเห็นชอบดังกล่าว และเรียกร้องให้บริษัทชำระหนี้คงค้างคืนทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม หนี้ดังกล่าวนี้เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นในขณะที่ SABUY ได้แต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารเข้ามาบริหารงานในบริษัท และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีความไม่สอดคล้องลงตัว ไม่โปร่งใส และไม่ได้มีการนำเงินไปประกอบธุรกิจหลัก บริษัทจึงได้มีการส่งหนังสือฉบับลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 แจ้งให้ SABUY ทราบถึงเหตุดังกล่าว และจะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดต่อไป โดยในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินคดีของสำนักกฎหมาย ซึ่งหากมีข้อสรุปที่ชัดเจน บริษัทจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
BAM เดินหน้ากลยุทธ์ 3P ก้าวสู่ฮับธุรกิจ AMC - MGC-ASIA ปลื้ม! 'XPENG X9' ทะลุเป้า
JMART ไม่เบี้ยวหนี้ ชำระคืนหุ้นกู้ครบ 2.3 พันลบ.
ONSENS ลงเสาเอก Social Wellness Hotel ทองหล่อ 17
CIMBT บุกแบงก์แอสชัวรันส์ ปั๊มเบี้ยปีแรก670ลบ. - EKH เข้าร่วมโครงการ JUMP+
EKH เดินหน้าเข้าร่วมโครงการ “JUMP+”
MASTEC เทรดวันแรก ราคาเปิดเหนือจอง 22.76%