Phones





A5 อวดผลงาน Q2 กำไรแกร่ง ลุยแผนเปิดโครงการใหม่

2025-08-14 17:31:49 133



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - A5 เผยผลประกอบการไตรมาส 2/68 มีรายได้รวม 416.56 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 70.88 ล้านบาท ขณะที่งวดครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 698.45 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 101.23 ล้านบาท สะท้อนกลยุทธ์พัฒนาโครงการตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มลักชัวรีที่แข็งแกร่ง เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ เสริมพื้นฐานแกร่ง
 
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 416.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.77% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 281.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 70.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.61% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.34 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 698.45 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 101.23 ล้านบาท
 
โดยผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากการรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ CINQ ROYAL Krungthep Kreetha (แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา) ที่ปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์ครบทั้งโครงการไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อีกทั้งโครงการ VANA Ratchapruek-Westville (วนา ราชพฤกษ์-เวสต์วิลล์) ที่มีกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3/2568 จะมีสัญญาณชะลอตัว แต่บริษัทยังสามารถสร้างยอดขายได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรี และการดำเนินกลยุทธ์ที่ชัดเจนและตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการคัดเลือกทำเลศักยภาพสูงที่สามารถสร้างมูลค่าในระยะยาว
 

ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 655 ล้านบาท (ณ 30 มิ.ย. 2568) จากโครงการ CINQ ROYAL The Eighteen Bangna KM.7 (แซงค์ รอยัล ดิ เอททีน บางนา กม.7) และโครงการ VANA Ratchapruek-Westville (วนา ราชพฤกษ์-เวสต์วิลล์) ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวแบรนด์โครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความเป็น Exclusive และ Private เจาะกลุ่มลูกค้าระดับอัลตร้าลักชัวรี บนทำเลศักยภาพสูง เหมาะทั้งเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่บริษัทในอนาคต
 
“เรามั่นใจในศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี ซึ่งมีฐานลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง ดีไซน์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ พร้อมทำเลศักยภาพที่หาได้ยาก จึงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ที่ผสานความครบครันของฟังก์ชันกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าและความยั่งยืนในระยะยาว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างแม่นยำและรัดกุม พร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในอนาคต” นายศุภโชค กล่าว