Phones





“จิตตะ เวลธ์” เปิดตัว Omni Fund ปรับพอร์ตกองทุนรวมให้อัตโนมัติ

2025-12-02 18:00:42 103



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - จิตตะ เวลธ์ เปิดตัว Omni Fund กองทุนส่วนบุคคลเจ้าแรกในไทย บริหารพอร์ตกองทุนรวมอัตโนมัติด้วย AI กระจายความเสี่ยงด้วยทฤษฎีระดับโลก MPT ปิดทุกปัญหาการลงทุนกองทุนรวม เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท
 
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการลงทุนในกองทุนรวมถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนไทยในการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว แต่ในความเป็นจริง กลับพบว่านักลงทุนไทยยังประสบปัญหาการลงทุนที่ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามคาดหวัง โดยที่ผ่านมามีงานวิจัยและรายงานของหน่วยงานกำกับตลาดทุนที่บ่งชี้ถึงปัจจัยที่ทำให้คนไทย “ไม่ประสบความสำเร็จ” ในการลงทุนกองทุนรวม มาจากค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมการลงทุนตามอารมณ์ และการเลือกกองทุนโดยไม่สอดคล้องกับแผนการเงินส่วนบุคคล
 
โดยสิ่งที่นักลงทุนหลายคนมักละเลยคือค่าธรรมเนียมซื้อขายและค่าธรรมเนียมจัดการกองทุนรวม ทำให้ผลตอบแทนที่แท้จริงในระยะยาวออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ขณะเดียวกันพฤติกรรมการเงิน ของนักลงทุนไทยที่มักมีอคติทางจิตวิทยา นำไปสู่การซื้อกองทุนตามกระแส หรือพยายามจับจังหวะตลาด ทำให้ผลตอบแทนระยะยาวไม่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่รับได้ และที่สำคัญคือ นักลงทุนจำนวนมากไม่จัดสัดส่วนสินทรัพย์ (Asset Allocation) ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเงินและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตลงทุนที่มีอยู่ให้น้ำหนักกับสินทรัพย์เสี่ยงเกินไปในบางช่วงเวลา ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นกับดักที่ทำให้พอร์ตของนักลงทุนไม่สามารถเติบโตตามแผนที่ตั้งใจไว้
 
ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนไทย จึงได้พัฒนา Omni Fund กองทุนส่วนบุคคลเจ้าแรกที่มีระบบลงทุนในกองทุนรวม บริหารจัดการครบทุกขั้นตอน ครบ จบในที่เดียวกัน ทั้งการเลือกองทุน ซื้อขาย และปรับพอร์ตให้นักลงทุนแบบอัตโนมัติ ด้วยอัลกอริทึมที่ออกแบบมาช่วยจัดพอร์ตลงทุนทั่วโลกตามทฤษฎีการจัดพอร์ตรางวัลโนเบลระดับโลกแบบ Modern Portfolio Theory (MPT) เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ต่างประเทศผ่านกองทุนรวมไทย เพื่อให้พอร์ตเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน
 
สำหรับแนวคิดการจัดพอร์ตแบบ MPT เป็นทฤษฎีที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว หัวใจสำคัญคือการคำนวณและจัดสินทรัพย์ให้อยู่ในจุดที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้ (efficient frointier) อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนทั่วไป โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดมีความผันผวนสูงเช่นนี้
 
“Omni Fund ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกได้ง่ายขึ้นด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และเพิ่มทุน (DCA) ครั้งละ 1,000 บาท มีแผนลงทุนให้เลือก ทั้งแผนเติบโต สมดุล หรือ พอเพียง ตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของแต่ละคน และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ Omni Fund คือการปรับพอร์ตอัตโนมัติ (Auto Rebalance) ตามหลักการ ช่วยลดความเสี่ยงและรักษาสัดส่วนสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับเหมาะสมตลอดเวลา” นายตราวุทธิ์ กล่าว
 
อย่างไรก็ตาม จากการพิสูจน์ผลตอบแทนย้อนหลังของการลงทุน Omni Fund สามารถสร้างผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อปีที่ 7.85% สำหรับแผนเติบโต และจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นหากมีการเพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอ (DCA) ตามระบบที่ออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาว สร้างโอกาสให้นักลงทุนที่ต้องการมีพอร์ตหลักตามหลักการ Core & Sattelite ซึ่งเป็นสูตรหลักของการลงทุนที่ Jitta Wealth แนะนำเพื่อช่วยให้พอร์ตมีเสถียรภาพรับมือกับความผันผวนได้ทุกสถานการณ์
 
ทั้งนี้ Omni Fund เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในตลาดโลกแต่ยังขาดประสบการณ์ อยากเริ่มต้นลงทุนอย่างมีหลักการ แต่ไม่มีเวลาติดตามตลาดหรือวิเคราะห์กองทุนด้วยตนเอง หรือมีเงินจำนวนน้อยแต่ต้องการผลลัพธ์แบบมืออาชีพ ผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตระยะยาวเพื่อการเกษียณที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และสามารถ DCA สร้างผลตอบแทนทบต้นเติบโตมั่งคั่งได้ โดยเชื่อมั่นว่า Omni Fund จะเข้ามาช่วยคนไทยที่ปัจจุบันมีการลงทุนในกองทุนรวมอยู่ราวๆ 1.5-2 ล้านคน ให้สามารถจัดพอร์ตกองทุนรวมได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายทางการเงินที่วางแผนไว้