นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTGC ชี้ ไตรมาส 2-4/63 ทิศทางธุรกิจฟื้นตัว มาร์จิ้นค่าการกลั่นดีขึ้น หลังราคาน้ำมันฟื้นตัว มีโอกาสกำไรสต็อกน้ำมัน มั่นใจปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 7-10% ตามเป้า เพราะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นออกหุ้นกู้ 4 พันล้านเหรียญฯ รองรับ 5 ปีข้างหน้า เสริมสภาพคล่อง สร้างความแข็งแกร่งการลงทุน

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 63 มั่นใจว่าปริมาณการผลิตของบริษัทยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย เพิ่มขึ้น 7-10% จากปี 62 มีปริมาณการผลิตรวม 11 ล้านตัน เนื่องจากในปีนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ รวมทั้งมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา ทั้งโครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) และ โครงการโพลีออลส์ (Polyols) คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/63 โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4/63 โดยเมื่อเดินเครื่องผลิตทั้ง 3 โครงการ คาดว่าจะส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ สามารถแข่งขันได้ในตลาด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2-3-4/63 คาดว่าภาพรวมธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้น มั่นใจว่าดีมานด์จะเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำมีโอกาสมีกำไรจากการสต็อกน้ำมัน หลังจากไตรมาส 1/63 ราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 23.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ขาดทุนน้ำมัน ขณะที่กำลังการผลิตเฉลี่ยในระดับ 100%

นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/63 เริ่มปรับการผลิตน้ำมันอากาศยานมาผลิตเป็นน้ำมันดีเซลกับน้ำมันเตาและแนฟทาแทน ซึ่งจะส่งผลให้มาร์จิ้นค่าการกลั่น (GRM) ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ขณะที่ค่าการกลั่นรวม (GIM) คาดว่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/63 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ทรงตัว นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง 1,000 ล้านบาท

ส่วนแผนการลงทุนของบริษัทนั้น มีการทบทวนแผนการลงทุนโครงการใหญ่ โดยเลื่อนการลงทุนโครงการที่ยังไม่จำเป็นออกไปก่อน อาทิ โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่สหรัฐอเมริกา มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท โดยคาดว่าตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ได้ในปี 64 จากเดิมที่จะสรุปการลงทุนภายในไตรมาส 3/63 เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจ รวมทั้งศึกษาทิศทางความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์รองรับการเปลี่ยนแปลง (New Normal) ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน รวมถึงการชะลอการพิจารณาซื้อกิจการขนาดใหญ่ออกไปเป็นปีหน้า

ทั้งนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการลงทุน เสริมสภาพคล่อง และรักษาเงินสดในมือ บริษัทเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เพื่อออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.28 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี ( 2563-2567) โดยปัจจุบริษัทมีเงินสดในมือราว 23,000 ล้านบาท รวมทั้งการออกหุ้นกู้ไปแล้วก่อนหน้านี้ 15,000 ล้านบาท เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเตรียมเซ็นสัญญาเงินกู้จากสถาบันการเงิน 3 แห่ง รวม 30,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาได้ในไตรมาส 2/63 โดยปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับ 0.3 เท่า ยังมีความสามารถในการกู้ได้อีกมาก

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com

หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews