Phones





BAFS ตั้งเป้า5-7ปี ขยายฐานรายได้แตะ1หมื่นล.

2020-05-28 17:28:24 426




นิวส์ คอนเน็คท์ – BAFS รุกแตกไลน์ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนคาดปิดดีล 20 เมกะวัตต์ในปีนี้ พร้อมเล็งขยายตลาดเติบน้ำมันอากาศยานในประเทศเพื่อนบ้าน หวังช่วยขยายฐานรายได้เป็น 10,000 ล้านบาทใน 5-7 ปีข้างหน้า ยอมรับปีนี้ปริมาณการให้บริการน้ำมันอากาศยานลดลงกว่า 58% มั่นใจการบินไทยไม่ขายหุ้น BAFS


เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 มล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS กล่าวว่า ความคืบหน้าในการลงทุนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนนั้น BAFS ได้มีการจัดตั้งบริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% เพื่อดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน

ปัจจุบันยังคงเดินหน้าเจรจาเข้าซื้อกิจการ และร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเบื้องต้นจะเน้นลงในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้าก่อน และเป็นโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว เพื่อที่จะรับรู้รายได้เข้ามาทันทีคาดว่าจะเห็นความชัดเจนการเข้าซื้อโครงการในประเทศอย่างน้อย 20 เมกะวัตต์ได้ภายในปีปลายปีนี้


นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดให้บริการน้ำมันอากาศยานในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว เมียนมา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าไปประมูลงานคาดว่าจะมีความชัดเจนปี 64 อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นนั้นบริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BAFS ได้เริ่มเจาะตลาดรถเติมน้ำมันอากาศยาน และอุปกรณ์ให้บริการภาคพื้นอากาศยานในสปป.ลาว และเมียนมา แล้ว ล่าสุดมีการส่งมอบรถให้กับ สปป.ลาว 2 คัน ทั้งนี้การแตกไลน์ธุรกิจ และแผนขยายตลาดเติมน้ำมันอากาศยานในประเทศเพื่อบ้านนั้นเพื่อขยายฐานรายได้ให้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาทใน 5-7 ปีข้างหน้า


ส่วนภาพรวมธุรกิจในปี 63 คาดว่า ภาพรวมปริมาณการให้บริการน้ำมันอากาศยานจะลดลงกว่า 58% หรือมาอยู่ที่ 2,585 ล้านลิตร จากปีก่อนที่มีปริมาณการเติมน้ำมันที่ระดับ 6,139 ล้านลิตร ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้รวมลดลงกว่า 50% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมการบินมีจำนวนเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศลดลง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชะลอตัว อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ปลายปีนี้


อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่ามีเงินทุนหมุนเวียนรองรับอยู่กว่า 1,390 ล้านบาท รวมไปถึงได้ยืดระยะเวลาการชำระหนี้กับสถาบันทางการเงินต่างๆ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหากสถานการณ์ยืดเยื้อ และชะลอการลงทุนต่าง ๆ ออกไป โดยยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าล่วงเวลา ค่าเบี้ยประชุม รวมไปถึงเงินตอบแทนผู้บริหาร


ส่วนกรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ถือหุ้นในบริษัท BAFS อยู่ในสัดส่วน 22.59% และการบินไทยเข้าสู่ขบวนการแผนฟื้นฟูหลายฝ่ายมองว่า การบินไทยมีโอกาสขายหุ้น BAFS นั้นโดยส่วนตัวมองว่า การบินไทยจะไม่ขายหุ้นบริษัทออกมาอย่างแน่นอน เนื่องจาก BAFS สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับการบินไทยมาโดยตลอดในแง่ของเงินปันผล


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews