Phones





เซียนหุ้นแนะซื้อ EP เคาะเป้า 5.10 บาท

2020-06-20 11:06:08 232




นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น EP รับอานิสงส์ย้ายหุ้นเทรดกลุ่มพลังงาน อนาคตดี คาดค่าพีอีเรโชขยับขึ้น ประเมินผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 ลุ้นมีกำไรจากเงินบาทแข็งค่า แม้ธุรกิจทรงตัว จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19


บทวิเคราะห์ของ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ได้แนะนำ "ซื้อ" หุ้นบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 5.10 บาท เนื่องจากเตรียมย้ายเข้ากลุ่มพลังงาน (โรงไฟฟ้า) ขณะที่ให้มูลค่าหุ้นในแต่ธุรกิจประกอบด้วย ธุรกิจโรงพิมพ์ 0.34 บาทต่อหุ้น (PBV 0.15 เท่า), ธุรกิจกล่องลูกฟูก 0.28 บาทต่อหุ้น (PE 9 เท่า), และ ธุรกิจโรงไฟฟ้า 4.46 บาทต่อหุ้น (DCF)


ทั้งนี้ EP จะทำการย้ายหมวดอุตสาหกรรมฯจากหมวดสิ่งพิมพ์ไปยังหมวดพลังงาน คาดเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุน เนื่องจากการย้ายจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่แนวโน้มชะลอตัวไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังเติบโต ขณะที่ PE อาจถูก Re-rate ขึ้น เมื่อทำการพิจารณาเปรียบเทียบกับกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า


สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 คาดกำไรปกติทรงตัวจากไตรมาส 1/2563 แต่เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นราว 6% QTD ทำให้คาดว่ามีโอกาสที่จะกลับรายการผลขาดทุนฯ เป็นกำไร ในไตรมาส 2 ของปีนี้ (ทั้งนี้รายการดังกล่าวไม่กระทบต่อการประเมินมูลค่าเหมาะสม)


รายงานระบุว่า ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (EP ถือหุ้น PPTC 49.5% / SSUT 40%) ที่มีลูกค้าในนิคมฯลาดกระบัง และ บางปู ตามลำดับ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ดีมานด์การใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 2/2563 ชะลอตัวลงจากงวดเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากผู้ใช้อุตสาหกรรมจะเป็นจำพวกการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ดีจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารล่าสุดปริมาณขายไฟฟ้าในเดือน มิถุนายน กลับสู่ระดับใกล้เคียงปกติแล้ว


ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนสิ้นปี 2563 เป็น 31.5 บาทต่อดอลลาร์ (เดิม 30 บาท/ดอลลาร์) ทำให้คาดว่าปี 2563 จะมีการบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 105 ล้านบาท กำไรสุทธิจึงปรับลดลงเป็น 207.6 ล้านบาท (ลดลง 34%) แต่ยังคงประมาณการฯกำไรปกติไว้ตามเดิม 313 ล้านบาท (คำนึงถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสฯในประมาณการแล้ว) นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าที่ประเทศเวียดนาม (เป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ)


สำหรับแนวโน้มดีมานด์กล่องลูกฟูก และบรรจุภัณฑ์กระดาษในไตรมาส 2/2563 คาดจะชะลอตัวลงบ้าง แม้ว่าจะมีดีมานด์จากธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ แต่กล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งออกสินค้าลดลงโดยเฉพาะในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานของสายธุรกิจนี้จะชะลอตัวลงเล็กน้อยในไตรมาส 2/2563 ก่อนที่จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของปีนี้ ขณะที่ส่วนต่างราคาขายกล่องลูกฟูกเฉลี่ยกับราคาต้นทุนกระดาษคราฟท์ล่าสุดเดือนมกราคม ถึงเมษายน ยังทรงตัวในเกณฑ์สูงใกล้เคียงไตรมาส 4/2562 แสดงถึงดีมานด์ที่ยังแข็งแกร่ง


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews