Phones





GULF มั่นใจรายได้ปี63โตไม่ต่ำกว่า10%

2020-06-24 19:48:51 344




นิวส์ คอนเน็คท์ - GULF มั่นใจ รายได้ปี 63 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เล็งซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในเอเชีย-ยุโรป คาดปีนี้ปิดดีลได้ 1 โครงการ เริ่มนำเข้า LNG 65,000 ตันปลายปีนี้


เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยในงานสัมมนา “ส่องหุ้นไทย ฝ่าวิกฤติโควิด” ว่า บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมรายได้ในปี 63 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เทียบกับปี 62 ที่มีรายได้รวม 34,552 ล้านบาท เนื่องจากเติบโตตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปีหน้า รายได้จะเติบโต 35% หรืออยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท และยังคงเป้ารายได้ปี 64 ไว้เช่นเดิม


ขณะที่การลงทุนต่างๆ ยังจะเป็นไปตามแผนลงทุนในช่วง 5 ปี ที่จะใช้เงินลงทุน 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าศรีราชา (GSRC) และโรงไฟฟ้าปลวกแดง (GPD) รวมกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ มีกำหนดที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตามแผนระหว่างปี 64-67 และลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ จะเริ่มก่อสร้างในปี 64 และมีกำหนดเปิดดำเนินการตามแผนในปี 67- 68โรงไฟฟ้าบูรพาพาวเวอร์ ซึ่งเป็น IPP ขนาด 540 เมกะวัตต์ จะเริ่มก่อสร้างในปี 67 และมีกำหนดเปิดดำเนินการตามแผนในปี 70


ส่วนการขยายการลงทุนโดยการซื้อกิจการ (M&A) นั้น ยังคงเดินหน้าต่อไป แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทก็ยังมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการที่สร้างกำไรกลับเข้ามาทันที ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาซื้อกิจการในต่างประเทศหลายโครงการ ทั้งในเอเชีย และยุโรป โดยจะให้ความสําคัญกับโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน คาดว่าจะมีชัดเจนมากกว่า 1 โครงการภายในปีนี้


สำหรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) หลังจากบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในปริมาณ 3 แสนตันต่อปีนั้น บริษัทฯ นำก๊าซธรรมชาติในปริมาณดังกล่าวมาใช้กับโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการของกลุ่มบริษัทเพื่อผลิตไฟฟ้า จำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งล่าลุดบริษัทฯ ได้เตรียมแผนจะนำเข้า Spot LNG ลำแรก ปริมาณ 65,000 ตัน ในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่การนำเข้า LNG ของบริษัทหินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) ซึ่งเป็นร่วมทุนที่ GULF ถือหุ้นในสัดส่วน 49% และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ถือหุ้น 51% ที่ได้รับอนุมัติใบอนุญาตฯ เช่นกัน ในส่วนนี้ให้เป็นหน้าที่ของ RATCH ที่จะดำเนินการ


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews