Phones





BGRIM กำไรพุ่งแรง รับผลบวกต้นทุนLNGลด

2020-06-26 15:52:51 320




นิวส์ คอนเน็คท์ - BGRIM รับผลบวกต้นทุนราคา LNG ลด ดันกำไรสุทธิปีนี้โต 10-15% พร้อมลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อผลิตโครงการโรงไฟฟ้า Hybrid หวังเดินเครื่องผลิตได้ปี 67 คาด IRR ไม่ต่ำกว่า 12%

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตได้ 10-15% หลังได้รับอานิสงส์จากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯได้รับอนุมัติ License การนำเข้า LNG ขนาด 650,000 ตัน/ปี โดยมีแผนจะนำเข้าในปี 2565 หลังจากการก่อสร้างโครงการ SPP ของบริษัทแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกแหล่งซัพพลาย คาดว่าจะได้ข้อสรุปปีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเป้าหมายปีนี้เหลือโต 10% จากปีก่อน ผลจากจากปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้องมีการหยุดผลิตไปชั่วคราว เหตุจากไวรัสโควิด-19 ระบาดในช่วงที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน


ล่าสุด บริษัทได้ลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อผลิตโครงการโรงไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid) ในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) โดยมีกองทัพเรือ ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกร่วมกับ สกพอ. ได้คัดเลือก เป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ พื้นที่ 100 ไร่ มีสัญญาการเช่า 29 ปี 6 เดือน




ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid) เฟสที่ 1 จะมีกำลังการผลิต 95 เมกะวัตต์ โดยใช้งบลงทุนในการก่อสร้างประมาณ 3,800 ล้านบาท และจะพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) อย่างสมบูรณ์ในปี 2567 ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 12% ขณะเดียวกัน มองว่ายังมีโอกาสที่จะนำเข้าก๊าซ LNG เพื่อนำมามาใช้เองในโครงการนี้ เพื่อหวังลดต้นทุน


โครงการดังกล่าวถือเป็นโรงไฟฟ้าไฮบริดแบบผสมผสานเทคโนโลยีทั้ง 3 ระบบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่จะสามารถนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด มีประสิทธิภาพด้านการผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพมากที่สุด ทั้งยังปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ถือเป็นระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญที่จะสามารถสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคตให้กับสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกได้ตามนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่อยู่ในสนามบินอู่ตะเภา ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ และมีแผนจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่โครงการรถไฟฟ้าอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ขนาดกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 20 เมกะวัตต์ด้วยเช่นกัน


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews