Phones





SCBS ชี้ปัจจัยเสี่ยงกดดัชนีลงกรอบล่าง1,280จุด

2020-07-13 17:54:06 288




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCBS ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความกังวลต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ อาจกดดันดัชนีลงไปเคลื่อนไหวในกรอบล่างที่ 1,300 -1,280 จุด แนะกลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 3/63 จัดพอร์ต 2 รูปแบบ เลือกลงทุนหุ้น defensive และ หุ้นเชิงกลยุทธ์


เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 63 ยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทั้งจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ จึงประเมินเป้าหมายดัชนีในปีนี้ไว้ที่ระดับ 1,428 จุด ลดลงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ 1,450 จุด และหากในช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นประเมินว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,300 – 1,280 จุด


ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 63 มองว่าส่วนใหญ่จะอยู่ในทิศทางชะลอตัวแน่นอน และจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในปี 64 แต่จะยังไม่สามารถทำได้ในระดับเดียวกับปี 63 โดย SCBS ได้ปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS) ในปีนี้ลงเหลือ 62.57 บาทต่อหุ้น ลดลง 27% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 86.19 บาทต่อหุ้น ก่อนที่ EPS จะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 64 โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 79.96 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 28% จากปี 63


อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามและน่าจะมีผลเชิงวิทยาต่อการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังคือ การปรับคณะรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เนื่องจากมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะต่อไป รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลัง โดยหากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาไม่ทันในช่วงไตรมาส 3/63 จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังมีความกังวลหากเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นอน


นอกจากนี้แม้ตลาดการเงินฟื้นตัว และเกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่มองว่ายังมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง และด้านเครดิตปรับตัวลดลง ควบคู่ไปกับเงินทุนไหลเข้าของต่างชาติ และ credit spread ที่เริ่มมีเสถียรภาพ จึงมองว่า downside มีจำกัด และจะเห็นการหมุนรอบการลงทุนไปยังหุ้นคุณค่า (value stock) และหุ้นวัฏจักร (cyclical stock) ขณะที่ภาพของ easy returns จะไม่มีเห็นอีกต่อไป  


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 3/63 มองว่านักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบคือการลงทุนในหุ้น defensive โดยส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/63 ได้แก่ BDMS, BEM, BTS, CPF และหุ้นที่น่าจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งเช่น ADVANC, BCH ส่วนการลงทุนในรูปแบบเชิงกลยุทธ์ หรือ tactical portfolio คือการเล่นหุ้นตามรอบเพื่อเก็งกำไรในระยะ 3 เดือน ซึ่งควรเน้นหุ้นที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลก และวัฏจักรเศรษฐกิจในประเทศที่มีคุณภาพดี ได้แก่ BBL, ERW, IVL และ HANA


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews