นิวส์ คอนเน็คท์ – BCPG ตั้งเป้า EBITDA 5 ปีเพิ่มเป็น 7 พันล้านบาท หรือ เติบโต 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท ขณะที่การขายหุ้นเพิ่มทุน 1.3 พันล้านหุ้น แบ่งขายให้ผู้ประกอบการไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ 2-3 จำนวน 283 ล้านหุ้น คาดได้เงินทั้งหมด 10,000 ล้านบาทลุยขยายลงทุน พร้อมเล็งซื้อโซลาร์ฟาร์ม พลังงานลม

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยในงานแถลงข่าวการเพิ่มทุน ว่า แผนการลงทุน 5 ปี (64-68) ตั้งงบลงทุนไว้กว่า 45,000 ล้านบาท โดยมุ่งขยายโรงไฟฟ้าไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และประเทศในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการลงทุนตามแผนอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 5 ปี บริษัทตั้งเป้ามีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เป็น 7,000 ล้านบาท หรือ โต2 เท่าจากปัจจุบันอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท

พร้อมกันนี้เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และใช้ในการขยายลงทุนในระยะ 5 ปีบริษัทจึงได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทโดยการเพิ่มทุน 1.3 พันล้านหุ้น คาดว่าจะได้รับเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการเพิ่มทุนในครั้งนี้ส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง และสามารถรองรับการลงทุนตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้การเพิ่มทุน 1.3 พันล้านหุ้นนั้นในจำนวนนี้จะเสนอขายให้กับกองทุน 2 รายจำนวน 391.5 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 11.50 บาท และเสนอขายให้กับผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศจำนวน 283 ล้านหุ้น โดยจะขายในราคาตลาดในช่วงเวลาที่เสนอขาย และในสัดส่วนที่เหลือเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นรายเดิม อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแต่สัดส่วนการถือหุ้นของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP จะยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 51-52%

สำหรับเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนประมาณ 10,000 ล้านบาทในครั้งนี้บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 6,650 ล้านบาท ในโครงการที่มีอยู่และกำลังพัฒนา ซึ่งในจำนวนนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาทเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยจำนวน 4 โครงการ ตั้งอยู่ในบริเวณ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดลพบุรี และจังหวัดปราจีนบุรี มีกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 20 เมกะวัตต์

ส่วนที่เหลือ 5,450 ล้านบาทใช้ลงทุนในโครงการรโรงไฟฟ้าพลังงานลมใน สปป. ลาว กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ รวมถึงการก่อสร้างสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์ เพื่อรองรับการซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าโครงการฯ จะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 66 และชำระหนี้เงินกู้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B ใน สปป. ลาว และการสร้างสายส่งขนาด 220 กิโลโวลต์ เพื่อส่งไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 แห่ง ไปยังประเทศเวียดนาม

ขณะที่เงินเพิ่มทุนอีกประมาณ 3,700 ล้านบาท ใช้สำหรับลงทุนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าอยู่แล้ว รวมถึงการลงทุนในโครงการใหม่ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ซึ่งตั้งเป้าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity/ ROE) ไม่น้อยกว่า 10% คาดว่าจะได้ข้อสรุปซื้อกิจการอย่างน้อย 1 โครงการภายในปีนี้

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews