Phones





AOT มั่นใจยังโต - รับบริหารเพิ่ม 4 สนามบิน

2019-08-21 15:19:35 191




นิวส์ คอนเน็คท์ - AOT มั่นใจ กำไรใกล้เคียงปีก่อนแม้ผู้โดยสารหดตัวคาดเหลือโต 1.5% จากปีก่อนโต 8% คาดรายได้โต 6% ชี้ยังได้รับปัจจัยหนุนผู้โดยสารต่างประเทศ ปีนี้มั่นใจธุรกิจ Non-Aero หนุน บอร์ดไฟเขียว รับโอน 4 สนามบินเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหาร


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า คาดว่าผลประกอบการของปีงบประมาณ 62 (ต.ค.61-ก.ย.62) จะใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 61 (ต.ค.60-ก.ย.61) ที่มีกำไรสุทธิ 2.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้คาดว่าเติบโตในระดับ 6% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวมราว 6.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยังได้รับปัจจัยหนุนจากผู้โดยสารต่างประเทศที่ปัจจุบันเติบโตอยู่ในระดับ 4-5% ส่วนผู้โดยสารภายในประเทศจะติดลบหลังจากสายการบินต้นทุนต่ำถึงจุดอิ่มตัว ลูกค้าผู้ใช้บริการเป็นฐานลูกค้าเดิม


ขณะที่ภาพรวมผู้โดยสารในปัจจุบันเติบโตอยู่ในระดับ 1.5% คาดว่าทั้งปีจะเติบโตในระดับ 1.5% เช่นกัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตในระดับ 6% และลดลงจากปีก่อนที่เติบโตในระดับ 8% เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับตัวลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ชะลอตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ค่าเงินหยวนอ่อนค่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงได้ผลกระทบจากกรณีประท้วงในฮ่องกง


ส่วนภาพรวมในปีงบ 63 ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขผู้โดยสาร แต่หากมีผลกระทบเหมือนกับปีงบ 62 ยังมั่นใจว่ายังมีรายได้จากธุรกิจ Non-Aero มาช่วยสนับสนุนจากที่ได้ดำเนินการลงทุนไว้ เช่น DIGITAL AIRPORTS ที่ครอบคลุมท่าอากาศยาน 6 แห่ง รวมทั้งมีการลงทุนในธุรกิจ Certify Hub ศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก และได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดให้บริการอาคารแซทเทิลไลท์ในปีหน้า ส่วนดิ้วตี้ฟรีใหม่จะเริ่มรับรู้กำไร 15,000 ล้านบาท ตั้งต่เดือน ต.ค.64


ส่วนโครงการลงทุนอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (เทอมินอล2) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ได้เสนอไปที่กระทรวงคมนาคมแล้วรอการพิจารณา คาดว่าจะสามารถนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในปลายปีนี้ แล้วดำเนินการทำ EIA ควบคู่กับการออกแบบ โดยการออกแบบคาดว่าใช้ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี โดยงบประมาณในการก่อสร้างยังอยู่ในระดับ 40,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะพิจารณาการขยายอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันตก และตะวันออกต่อไป


ขณะที่โครงการขยายรันเวย์เส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการราว 22,000 ล้านบาท คาดว่ารายละเอียดการประกวดราคา (TOR) แล้วเสร็จเดือน พ.ย.62 พร้อมประกาศขายซองประกวดราคาทันที


ส่วนการจัดเก็บค่าบริการผู้โดยสารระหว่างประเทศ (PSC) อยู่ที่ 700 บาทต่อหัว และยังไม่มีนโยบายจะปรับขึ้นค่า PSC เนื่องจากปัจจุบัน AOT มีกระแสเงินสดในมืออยู่กว่า 70,000 ล้านบาท เพียงพอรองรับการขยายการลงทุน


สำหรับความคืบหน้าเรื่องรับบริหารท่าอากาศยานอีก 4 แห่งที่เป็นของกรมท่าอากาศยานนั้น วันที่ 21 ส.ค.62 ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ให้ดำเนินการลงทุนและให้เปลี่ยนท่าอากาศยานใหม่ 2 แห่งที่ AOT จะบริหารคือ บุรีรัมย์ และกระบี่ เนื่องจากมองว่ามีศักยภาพในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ที่ดีกว่า สกลนคร และชุมพร ส่วนท่าอากาศยานอุดรธานี ตาก ยังคงเดิม ดังนั้นท่าอากาศยานที่ AOT จะเข้าไปบริหารประกอบด้วย อุดรธานี บุรีรัมย์ ตาก และกระบี่ คาดว่าจะนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า


ล่าสุด ที่ประชุมบอร์ด ทอท. ซึ่งมีนายประสงค์ พูลธเนศ ประธานบอร์ด ทอท. เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการเข้าบริหารท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน(ทย.) 4 แห่งให้มาอยู่ภายใต้ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี, ตาก, บุรีรัมย์ และกระบี่ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนจากแผนเดิมที่จะรับโอน ท่าอากาศยานอุดรธานี, ตาก, สกลนคร และชุมพร คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทในการปรับปรุงสนามบิน โดยเตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาสัปดาห์หน้า