Phones





กนง.คงดอกเบี้ย0.50% ชี้ศก.มีแววฟื้น

2020-09-23 18:25:31 346




นิวส์ คอนเน็คท์ - กนง.ปรับตัวเลขจีดีพีของไทยในปี 63 เหลือติดลบ 7.8% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 8.1% หลังเศรษฐกิจไตรมาส 2/63 หดตัวน้อยกว่าที่คาด พร้อมมีมติคงอัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี


เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.มีมติเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยมองว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายตั้งแต่ต้นปี มาตรการการคลังของรัฐบาล รวมทั้งมาตรการการเงินและสินเชื่อที่ออกมาเพิ่มเติม ช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น และจะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย


สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 63 มีแนวโน้มหดตัวน้อยลง จึงได้ปรับประมาณการตัวเลขจีดีพีของไทยในปีนี้เป็นติดลบ 7.8% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 8.1% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 2/63 ที่ผ่านมาชะลอตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ ขณะที่การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะติดลบ 8.2% และนำเข้าติดลบ 13.7% ด้านเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้คาดติดลบ 0.9% และเงินเฟ้อพื้นฐานคาดอยู่ที่ 0.3%


อย่างไรก็ตาม กนง.ได้ปรับลดประมาณการจีดีพีของไทยในปี 64 ลดลงมาเหลือขยายตัว 3.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 5% ซึ่งเป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า เนื่องจากยังต้องระวังความเสี่ยงเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัว 4.5% และนำเข้าคาดขยายตัว 4.4% ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปคาดอยู่ที่ 1% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.2%    


ทั้งนี้ มองไปข้างหน้าจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ เสถียรภาพระบบการเงิน และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งจากเศรษฐกิจต่างประเทศ ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงประสิทธิผลของมาตรการการคลังและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป โดยกนง. พร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น


อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ กนง. ประเมินว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี จึงจะเห็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งมองว่าการฟื้นตัวจะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมากระหว่างภาคเศรษฐกิจและผู้ประกอบการแต่ละกลุ่ม


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews