Phones





PTTGC เดินหน้าลงทุน​EEC - แนะรัฐแก้ปัญหาเรื่องน้ำ

2020-10-01 13:18:42 339




นิวส์ คอนเน็คท์ - PTTGC พร้อมเดินหน้าลุยลงทุนใน EEC ยังคงแผนศึกษาร่วมทุนเม็ดพลาสติก​มูลค่าเพิ่มสูงวงเงิน 3-4 หมื่นล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า​ แม้เกิดปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาด


เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ​PTTGC ยังคงแผนเดินหน้าลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แม้ปัจจุบันจะยังคงมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด - 19 ก็ตาม โดยยังคงแผนศึกษาร่วมทุนเม็ดพลาสติก​มูลค่าสูง คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนรวม 3-4 หมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า​ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนใน EEC อยู่ 3 โครงการมูลค่ารวมราว 1 แสนล้านบาท เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยทั้ง 3 โครงการจะทยอยแล้วเสร็จ เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/63 ช่วยหนุนผลประกอบการของปี 63 เติบโตเพิ่มขึ้น และยังเป็นการตอบสนองนโยบาย New S-Curve ของภาครัฐอีกด้วย


ทั้งนี้ 3 โครงการหลักพร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไตรมาส 4/63 ได้แก่ ​1. โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนในแนฟทา แครกเกอร์ (Naphtha Cracker) เพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบของบริษัทฯ และต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทิลีน 500,000 ตัน และโพรพิลีน 250,000 ตัน มูลค่าโครงการประมาณ 36,000 ล้านบาท , 2​โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) และ 3 โครงการโพลีออลส์ (Polyols) เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO) 200,000 ตันต่อปี และผลิตภัณฑ์โพลีออลส์ (Polyols) 130,000 ตันต่อปี มีมูลค่าโครงการประมาณ 34,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพิลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสายโพลียูรีเทน (Polyurethane)


อย่างไรก็ตาม ​ในฐานะที่ PTTGC ลงทุนรายใหญ่ที่สุดใน EEC ก็ต้องการเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องน้ำในระยะยาวรวมถึง​การจัดหาที่ดินภาคอุตสาหกรรม เพราะขณะนี้พื้นที่เต็มและค่าเช่านิคมอุตสาหกรรม​มีราคาสูง​ โดยเรื่องนี้​ตนจะนำเสนอต่อ​นายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์​มีเชาว์​ รองนายกรัฐมนตรีม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต่อไป


นอกจากนี้​ ยังมีโครงการร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูงใน 2 โครงการ ได้แก่ PA9T 13,000 ตัน/ปี และ HSBC 16,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 65 สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายเกรดพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) และ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E&E) ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด (KGC) มูลค่าโครงการประมาณ 15,000 ล้านบาท


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews