นิวส์ คอนเน็คท์ - SEAFCO มั่นใจปีนี้รายได้ - กำไรนิวไฮ หลังตุนงานในมือ 2.3 พันล้านบาท ครึ่งปีหลังลุยประมูลงาน 1.9 หมื่นล้านบาท อัดงบ 150 ล้านบาทลงทุนเครื่องจักร เล็งรับงานในกัมพูชา

นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า มั่นใจว่ารายได้และกำไรปีนี้จะทำนิวไฮเมื่อเทียบกับปี 61 ที่มีรายได้รวม 2,789 ล้านบาท กำไรสุทธิ 368 ล้านบาท

เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ 2,337 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 62 ราว 1,400 ล้านบาท หนุนรายได้เติบโตตามเป้า 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง 62 เตรียมยื่นประมูลงานใหม่กว่า 91 โครงการ มูลค่ารวมราว 19,612 ล้านบาท เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเช่ีอม 3 สนามบิน โครงการทางด่วนพระราม3 ที่เหลือเป็นโครงการของภาคเอกชน ซึ่งทำให้บริษัทมีโอกาสได้งานเข้ามาเติม Backlog ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 33% จากต้นปี 62 อยู่ในระดับ 30%

พร้อมกันนี้ ในปัจจุบันมีงานที่รอเซ็นสัญญาราว 200-300 ล้านบาท

ทั้งนี้ SEAFCO มั่นใจว่าจะรักษาอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ในระดับ 22% ไว้ได้แม้งานที่มีมาร์จิ้นสูงอย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการ One Bangkok จะทยอยส่งมอบเกือบหมดแล้วก็ตาม โดยจะต้องให้ได้งานเข้ามาจำนวนมากก่อนแล้วค่อยมาบริหารต้นทุนเพื่อรักษาระดับมาร์จิ้นให้อยู่ในระดับเดิม พร้อมกันนี้ เตรียมลงทุนเครื่องจักรเพิ่มในครึ่งปีหลังนี้อีก 150 ล้านบาทโดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนซื้อรถเครนเพื่อเสริมกำลังการผลิตและลดต้นทุนในการเช่ารถเครน

ส่วนงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐหลังจากนี้ไปจนถึงปีหน้าคาดว่าจะมีงานออกมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงยังเป็นโอกาสสร้างการเติบโตให้บริษัทได้ในระยะยาว

ส่วนภาวะการแข่งขันในปัจจุบันมองว่าโครงการระดับเล็กถึงกลางนั้นมีการแข่งขันที่สูงขึ้นแต่ไม่มีผลกระทบกับบริษัทเนื่องจาก SEAFCO รับงานโครงการขนาดใหญ่ปริมาณงานยังมีมาก

พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนขยายรับงานในต่างประเทศจากปัจจุบันอยู่ระหว่างทำโครงการรูปแบบมิกซ์ยูส ในประเทศเมียนมามูลค่า 189 ล้านบาท และมีโอกาสขยายงานเพิ่มเติมในเมียนมา ขณะเดียวกัน อยู่ระหว่างเจรจารับงานโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมในประเทศกัมพูชาผ่านผู้รับเหมาไทยซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสขยายเข้าไปรับงานในประเทศ สปป.ลาว เวียดนาม อีกด้วยเพื่อขยายฐานในต่างประเทศ