Phones





PTTGC สรุปแผนลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์USAกลางปี64

2020-11-12 16:09:09 433




นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTGC ยันสรุปแผนลงทุนโครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐอเมริกา กลางปี 64 ต้องศึกษาอย่างระเอียดก่อนลงทุน พร้อมเล็งซื้อกิจการต่อยอดธุรกิจ High Performance Product ขณะการลงทุนนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์เฟส 2 คาดได้ข้อสรุปดึงเนเจอร์เวิร์คร่วมลงทุนปีหน้า


เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า แผนการลงทุนโครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐอเมริกา นั้นต้องศึกษาทบทวนแผนการลงทุนใหม่ให้ละเอียดครอบ เนื่องจากเงื่อนไขการตัดสินใจลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19


รวมทั้งอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรรวมลงทุน หลังจากพันธมิตรที่จะมาร่วมลงทุนลงทุน คือ บริษัท Daelim Industrial Co., Ltd. (แดลิม) จากประเทศเกาหลีใต้ ได้ตัดสินใจถอนการลงทุนออกไป ซึ่งปัจจุบันก็มีการเจรจาอยู่หลายราย โดยยังคงตั้งเป้าว่าจะให้ได้ข้อสรุปการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในกลางปี 64 แต่หากไม่มีพันธมิตรในการร่วมลงทุน PTTGC ก็จะไม่ลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากต้องใช้งบลงทุนจำนวนมาก


ส่วนกรณีที่นายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั้นก็คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น สงครามการค้าระหว่างจีนก็อาจจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นก็มีผลต่อการตัดสินใจการลงทุนในโครงการโครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์สหรัฐ แต่ไม่มีผลต่อการได้รับสิทธิประโยชน์ในการลงทุน


ขณะที่แผนลงทุนซื้อกิจการ (M&A) ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาหลายโครงการในต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นเข้าซื้อกิจการในโครงการที่ PTTGC ยังไม่มีสายการผลิต เช่น โรงงานเม็ดพลาสติก High Performance Product เพื่อให้สามารถขยายตลาดเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างได้รวดเร็วขึ้น เป็นการขยายเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นการ M&A ภายในปี 64


ส่วนการลงทุนโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ ที่ดำเนินโครงการโดยบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC นั้นโครงการระยะที่ 1 เป็นการต่อยอดสู่เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ประกอบด้วย โรงหีบอ้อย โรงงานเอทานอล โรงงานไฟฟ้าชีวมวลและผลิตไอน้ำความดันสูงยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผน ส่วนการขยายลงทุนระยะที่ 2 เป็นการต่อยอดสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) และเคมีชีวภาพ (Biochemicals) ที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบนั้นอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท เนเจอร์เวิร์ค จากสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า ทั้งนี้การลงทุนต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นเนื่องจากการลงทุนต้องเงินลงทุนจำนวนมากกว่า 100 ล้านสหรัฐฯ


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews