Phones





กพช.ไพเขียวโรงไฟฟ้าชุมชนเปิดขายซองม.ค.64

2020-11-16 16:31:07 604




นิวส์ คอนเน็คท์ - กพช. ผ่านนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ประกาศหลักเกณฑ์ ขายซอง ม.ค. 64 เปิดยื่นประกวดราคา ก.พ. 64 พร้อมไฟเขียวแนวทางการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 64 จำนวน 6,500 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุม กพช.ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมของโครงการนำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 63


โดยมีเป้าหมายนำร่องกำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 75 เมกะวัตต์มีปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการ กำหนดกรอบราคารับซื้อไฟฟ้าที่ 4.2630 บาทต่อหน่วย และชีวมวลขนาดกำลังการผลิตต่ำกว่า 3 เมกะวัตต์ กำหนดกรอบรับซื้อไฟฟ้าที่ 4.8482 บาทต่อหน่วย โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ กำหนดกรอบราคารับซื้อไฟฟ้าที่ 4.2766 บาทต่อหน่วย โดยให้เอกชนแข่งขันด้านราคา ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานจะพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้า พื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้า พื้นที่ปลูกพืช ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตร และพื้นที่สายส่ง


ทั้งนี้ภายหลังจากนี้ทางกระทรวงพลังงานก็จะดำเนินการเปิดรับความคิดเห็น และให้รายละเอียดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ แก่เอกชนผู้สนใจในการลงทุน แล้วให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ใหม่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 45 วันในการกำหนดหลักเกณฑ์ หลังจากนั้นก็คาดว่าจะสามารถประกาศหลักเกณฑ์ และขายซองประกวดราคาได้ในเดือน ม.ค. 64 พร้อมเปิดให้ยื่นข้อเสนอในเดือน ก.พ. 64 โดยคาดว่าจะประผลประกวดราคาได้ภายในเดือน มี.ค. 64 แล้วลงนามซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ได้ประมาณเดือน เม.ย. 64


โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา PPA ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) แบบแข่งขันทางด้านราคา โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้เสนอโครงการ สำหรับการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิ ร้อยละ 10 ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่โรงไฟฟ้า การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม อย่างไรก็ตามโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้นหากเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 60-65 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 50-55 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์


พร้อมกันนี้ กพช.ยังได้เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 64 ในวงเงิน 6,500 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 63 และให้คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญฯ และการจัดสรรเงินตามกลุ่มงานต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม


โดยแผนอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน กรอบวงเงิน 6,305 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) กลุ่มงานตามกฎหมาย จำนวน 200 ล้านบาท 2) กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน จำนวน 500 ล้านบาท 3) กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ จำนวน 355 ล้านบาท 4) กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร จำนวน 200 ล้านบาท 5) กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร จำนวน 450 ล้านบาท 6) กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมขนาดเล็ก (SMEs) อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ จำนวน 2,200 ล้านบาท 7) กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 2,400 ล้านบาท และแผนบริหารจัดการ ส.กทอ. จำนวน 195 ล้านบาท


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews