นิวส์ คอนเน็คท์ - RS กางแผนปี 67 รายได้แตะหมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ 4 พันล้านบาท มั่นใจผลงาน Q4/63 พีคสุดของปี ดีลซื้อกิจการหวังดันธุกิจโตก้าวกระโดด

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 นายวิทวัส เวชชกุบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 67 รายได้จะแตะระดับ 10,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ 4,000 ล้านบาท ปัจจัยจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนสภาพของธุรกิจในทุกกระบวนการให้มีประสิทธิภาพในระดับสูงสุด และะบบการจัดการข้อมูลเข้ามาใช้โดยเฉพาะในธุรกิจธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) ที่จะส่งผลต่อการสร้างยอดขายให้มากขึ้น รวมถึงวิเคราะห์กลยุทธ์สินค้าและวิธีการขายที่ตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้าได้มากที่สุด และอีกหนึ่งโมเดลคือการผสมผสาน Entertainmerce ที่จะครบวงจรมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นยังเตรียมที่จะพัฒนาสินค้าใหม่อีกจำนวนมาก รวมถึงทางตลาดจำหน่ายสินค้าใหม่โดยจะมุ่งเน้น Mass market มากขึ้น ทั้งยังขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมองว่ามีพฤติกรรมการบริโภคคล้ายคลึงกับประเทศไทย ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/63 คาดจะทำจุดสูงสุดของปีนี้ โดยการเติบโตจะมาจากธุรกิจธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) ซึ่งโอกาสที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มอีกผ่านแพลตฟอร์ม RS Mall และช่องทางอื่นๆ อีกด้วย รวมถึงบริษัทยังเตรียมออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ด้านพาร์ทเนอร์โปรดักส์ บริษัทจะทำเพิ่มเป็น 75 SKUต่อเดือน ภายในไตรมาส 4/63 และปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 110 SKUต่อเดือน

ขณะที่ธุรกิจทีวี ปัจจุบันนี้บริษัทได้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศจีนและเวียดนาม เพื่อจำหน่ายคอนเทนต์ออริจินัล (Original Content) ส่วนธุรกิจเพลงทางบริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวศิลปินใหม่จาก 3 ค่ายเพลง ได้แก่ RoseSound, Kamikaze และ RSIAM พร้อมทำโปรเจกต์ร่วมกับ Partner ที่เป็นอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภค เพื่อทำให้เกิด Content ใหม่ๆ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews