Phones





“คลัง”โชว์ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง

2021-01-04 16:44:17 1219



นิวส์ คอนเน็คท์ – กระทรวงการคลัง เปิดตัวเลขผู้ใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่งและโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 แล้วจำนวน 12,050,115 คน เตือนผู้ได้รับสิทธิเร่งดำเนินการยืนยันตัวตนเพื่อรักษาสิทธิ


เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ได้เปิดให้ประชาชนได้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 นั้น จากข้อมูล ณ วันที่ 3 มกราคม 2564 มีผู้ใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่งและโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 แล้วจำนวน 12,050,115 คน


โดยเป็นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้ได้รับสิทธิเดิมจำนวน 9,536,644 คน ใช้จ่ายสะสม 52,358.3 ล้านบาท และผู้ได้รับสิทธิใหม่จำนวน 2,513,471 คน ใช้จ่ายสะสม 1,073.6 ล้านบาท รวมยอดการใช้จ่ายสะสม 53,431.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 27,353.4 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 26,078.5 ล้านบาท


สำหรับจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช ตามลำดับ และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1.1 ล้านร้านค้า โดยผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ขอให้เร่งดำเนินการและยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย โดยสามารถดำเนินการผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ (1) แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (2) สาขาธนาคารกรุงไทย หรือ (3) ตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทย และใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการภายใน 14 วัน เพื่อรักษาสิทธิของท่านให้สามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.64


ขณะที่ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิม หากประสงค์จะได้รับวงเงินเพิ่มอีก 500 บาท ตามโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ขอให้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยจะพบข้อความเตือน “ท่านได้รับสิทธิคนละครึ่ง ระยะที่ 2 มูลค่า 500 บาท และสามารถใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 มี.ค.64 และเมื่อกดปุ่ม “ยอมรับเงื่อนไขและรับสิทธิ” จะได้รับสิทธิดังกล่าว


 


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews