Phones





SCBชี้ธุรกิจจีนพร้อมหอบเงินลงทุนในไทย

2021-01-06 16:01:12 1173




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB ประเมินนักลงทุนจีนยังสนใจลงทุนในไทย แต่เม็ดเงินลงทุนลดลงจากอดีต คาดมูลค่าเงินลงทุนต่ำกว่า 500 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 นายมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ภาพรวมของนักลงทุนชาวจีนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในจีน และ ในประเทศไทย ยังมีความสนใจขยายการลงทุนมายังประเทศไทยในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนจีนที่ไม่เคยลงทุน หรือทำธุรกิจในประเทศไทยมาก่อน


โดยนักลงทุนจีนมองประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และ มีความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งประเทศไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่จะสามารถก้าวเป็นศูนย์กลางแห่งอาเซียน และเชื่อมโยงตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างกว้างขวาง แตกต่างจากมุมมองในอดีตที่มองว่า ไทยเป็นเพียงฐานการผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม รูปแบบการลงทุนของนักลงทุนจีนในไทยจะมีการเปลี่ยนไปจากเดิมที่มุ่งเน้นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เงินลงทุนสูง เช่น ยางรถยนต์ และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ มาสู่การลงทุนขนาดเล็กลง ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มนักลงทุนจีนรายใหม่ที่เข้ามาใหม่ที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยเป็นกลุ่มเอสเอ็มอีในจีน และรูปแบบการเข้ามาลงทุนจะไม่ได้เข้ามาสร้างฐานการผลิตในไทยเหมือนเมื่อก่อน แต่จะเป็นการใช้ไทยเป็นประเทศที่ต่อยอดในการกระจายสินค้า และ บริการในภูมิภาคมากขึ้น  


ทั้งนี้ ประเมินว่าเม็ดเงินลงทุนที่นักลงทุนจีนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่มูลค่าต่ำกว่า 500 ล้านบาท สำหรับการลงทุนโครงการในช่วง 1-2 ปีจากนี้ ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้าง และขนาดของการลงทุนในอดีตที่ใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1 พันล้านบาท


โดยวงเงินลงทุนที่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เป็นการลงทุนเพื่อต่อยอดห่วงโซ่อุปทานของสายการผลิตให้กับอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งจะใช้เงินลงทุนในช่วงแรกน้อยลงเพื่อเรียนรู้ตลาดก่อนขยายธุรกิจในอนาคตตามโอกาส และ ทิศทางการเติบโต โดยภาคธุรกิจบริการ และ เทคโนโลยี เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของนักธุรกิจจีนที่มีแนวโน้มจะขยายการลงทุนในไทยต่อไป


ด้านนายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) กล่าวว่า แม้วิกฤตโควิด-19 จะทำให้การลงทุนโดยตรงระหว่างประเทศ (FDI) ของโลก รวมถึงไทยชะลอตัวลง แต่คาดว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลายลงประเทศไทยจะยังคงเป็นจุดหมายของการลงทุนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนักลงทุนชาวจีน ซึ่งมียอดรวมของมูลค่าการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มากเป็นอันดับที่ 2 ในช่วงปี 60-62



โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนอันเป็นผลจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมไปถึงปัจจัยสนับสนุนพื้นฐานของประเทศไทย ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ตั้งของประเทศที่อยู่ในศูนย์กลางของ ASEAN โครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง นโยบายส่งเสริมการลงทุนทั้งด้านมาตรการภาษี และมาตรการอำนวยความสะดวกต่างๆ และ การผลักดันการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศของรัฐบาลไทย เช่น การลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภูมิภาค (RCEP) ที่เกิดขึ้นล่าสุด โดยมีเป้าหมายในการลดกำแพงภาษีทางการค้า และ เปิดตลาดผู้บริโภคระหว่างประเทศสมาชิก RCEP กว่า 2.3 พันล้านคน


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews