นิวส์ คอนเน็คท์ - DRT เดินเครื่องจักรสายการผลิตใหม่ NT-11 ป้อนตลาด ช่วยยืดหยุ่นในการผลิตสินค้าและบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น รับดีมานด์สินค้าไม้สังเคราะห์เพิ่มขึ้น 55,000 ตันต่อปี วางเป้าทั้งปีรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80% ของกำลังการผลิตรวม

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เริ่มเดินเครื่องจักรสายการผลิตใหม่ NT-11 เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์เพิ่มขึ้นอีก 55,000 ตันต่อปี โดยเครื่องจักรใหม่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในไลน์การผลิตและกระบวนการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากความสามารถด้านการผลิตที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในด้านขนาดผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองการนำไปใช้ตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัย

ขณะเดียวกัน ไลน์การผลิตดังกล่าว ยังเข้ามาส่งเสริมการทำตลาดสินค้าไม้สังเคราะห์ของ "ตราเพชร" เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติที่สามารถนำไปใช้เป็นวัสดุตกแต่งเพื่อทดแทนการใช้ไม้ธรรมชาติ และจุดเด่นด้านความแข็งแรงทนทานและสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว จึงมั่นใจว่าสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ เช่น ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่ง จะเป็นสินค้าที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้

ทั้งนี้ จึงเป็นจังหวะดีที่บริษัทจะเก็บเกี่ยวรายได้อย่างเต็มที่รองรับการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มกลับมาวางแผนพัฒนาโครงการและเปิดตัวที่อยู่อาศัยกลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น หลังจากภาครัฐได้เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง

“เครื่องจักรสายการผลิตใหม่ NT-11 จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น โดยเรามีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 80% ของกำลังการผลิตรวมกว่า 1.15 ล้านตันต่อปี และคาดว่าหลังจากที่ประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รอบใหม่และเริ่มทยอยฉีดวัคซีน จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์” นายสาธิตกล่าว

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews