Phones





EPG อวดกำไรไตรมาส3ปี63/64 พุ่ง103%

2021-02-15 10:51:47 405




นิวส์ คอนเน็คท์ - EPG โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 63/64 อยู่ที่ 433 ล้านบาท สูงขึ้น 103% จากปีก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่ ผลักดันยอดขาย และกำไรสุทธิ เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ


เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 63/64 (ต.ค.63 – ธ.ค.63) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,593.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,427.7 ล้านบาท หรือ 6.8% จากการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมาใช้อย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 33.2% อยู่ในระดับสูง ทำให้มีกำไรสุทธิ 433.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 213.4 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของกำไรสุทธิรายไตรมาส


สำหรับผลมาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจได้แก่ ธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 648.1 ล้านบาท หรือลดลง 13.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายในประเทศยังเติบโตช้าตามการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง อีกทั้งความล่าช้าจากกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ขณะที่ยอดขายตลาดในสหรัฐอเมริกาปรับตัวดีขึ้นเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดขายในญี่ปุ่นฟื้นตัวดีขึ้นเทียบจากไตรมาสก่อน


ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มีรายได้จากการขาย 1,291.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ปีบัญชีก่อนหน้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน


รวมถึงธุรกิจในออสเตรเลียมียอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคนออสเตรเลียนิยมท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น รวมถึง TJM ได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกของลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดจำหน่าย


สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขาย 653.1 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 1.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภท กล่องใส่อาหาร เนื่องจากผู้บริโภคยุค New Normal นิยมสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่ หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น อีกทั้งได้รับอานิสงค์จากมาตรการภาครัฐเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศอีกด้วย ส่งผลให้


นอกจากนี้บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ที่ 40.8 ล้านบาท ลดลง 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทร่วมในจีนมีต้นทุนผลิตที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขยายธุรกิจของกิจการร่วมค้าในแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ตามบริษัทร่วมในประเทศที่ผลิตสินค้าเพื่อขายให้อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวต่อเนื่องรายไตรมาส


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews