นิวส์ คอนเน็คท์ - สมาคมประกันชีวิตไทย ประเมินการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเบื้องต้นจากการบังคับใช้ IFRS17 ชี้ให้เตรียมรับมือ การรับรู้กำไร-ข้อสรุปเรื่องภาษี หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง เตรียมบังคับใช้ 1 ม.ค. 2567

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 สมาคมประกันชีวิตไทย จัดงานสัมมนา ภาพรวมมาตรฐานรายงานทางการเงินที่มีผลกระทบกับธุรกิจประกันชีวิตในอนาคต (IFRS17 : สัญญาประกันภัย) โดยมีนายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เป็นผู้กล่าวเปิดงานสัมนา พร้อมกับ นายธานี ทรงธนเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการระบบบัญชีและภาษี สมาคมประกันชีวิตไทย และนางสาวจารุวรรณ ลิ้มคุณธรรมโน รองประธานคณะอนุกรรมการระบบบัญชีและภาษี สมาคมประกันชีวิตไทย เป็นวิทยากรในงาน

โดยการเข้ามาของการเปลี่ยนรูปแบบการบันทึกข้อมูลการเงินแบบใหม่ IFRS17 ไม่ใช่แค่การเปลี่ยน ระบบการทำงาน แต่เป็นเรื่องของผู้บริหารประกันภัยในการวางกลยุทธ์เพื่อบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการสร้างความเข้าใจระบบการทำงานแบบใหม่ร่วมกัน ให้เข้าใจตรงกันโดย IFRS17 ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถแสดงสถานะทางกานเงินได้อย่างสม่ำเสมอ ครอบคลุมภาระผูกพัน รวมทั้งสามารถเปรียบเทียบรายได้กับบริษัทประกันภัยด้วยได้เองได้ทั่วโลก นอกจากนี้ IFRS17 ยังรวมถึงการเปรียบเทียบรายได้กับธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจประกันภัยได้ด้วย

สำหรับสิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากเปลี่ยนมาใช้ IFRS17 ได้แก่ แบ่งส่วนการแสดงกำไรประกันภัยและกำไรทางเงินออกจากกัน รวมทั้งไม่สามารถรับรู้รายได้จากเบี้ยประกันอีกต่อไป เบี้ยประกันจะถูกบันทึกเป็นหนี้สินตามสัญญาประกันภัย และรับรู้ผ่านรายได้ล่วงหน้า จะไม่มีการสำรองเงินประกันชีวิต ถึงแม้รูปแบบการรับรู้รายได้จะเปลี่ยนแต่กำไรตลอดอายุยังคงเท่าเดิม

โดยสมาคมประกันชีวิตไทยได้สรุปผลกระทบเบื้องต้นที่ได้รับจากการบังคับใช้ IFRS17 ดังนี้ ส่งผลต่อการรับรู้กำไรในแต่ปี และไม่สามารถใช้หลักเกณฑ์ในการคำนวนภาษีในปัจจุบันได้ จำเป็นต้องมีการหาข้อสรุปในการคำนวนภาษี รวมทั้งส่งผลให้เกิดความผันผวนในการสำรองเงินสำรองฯ มากขึ้น ดังนั้น การพิจารณามูลค่าสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับหนี้สินต้องรอบคอบมากขึ้น ทั้งนี้ การบังคับใช้ IFRS17 จะมีผลบังคับใช้ร่วมกันทั่วโลกวันที่ 1 มกราคม 2566 และเริ่มใช้ภายในประเทศไทยวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยอาจมีบริษัทลูกบางแห่งเริ่มมีการปรับมาใช้ IFRS17 ก่อน เนื่องจากปรับระบบตามบริษัทแม่ในต่างประเทศ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews