นิวส์ คอนเน็คท์ – BCAP เตรียมปันผลกองทุนเปิด บีแคป โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซ์ รอบการดำเนินงานช่วง 31 มี.ค. 63 - 31 มี.ค. 64 อัตราหุ้นละ 0.48 บาท วางแผนเน้นลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน-ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือ BCAP เปิดเผยว่า กองทุนเปิดบีแคป โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซ์ หรือ BCAP-GPROP เตรียมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน สำหรับผลการดำเนินงานรอบบัญชีวันที่ 31 มี.ค. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.48 บาท โดยกำกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนและขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 เม.ย. 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 พ.ค. 2564

โดยกองทุนรวม BCAP-GPROP เน้นการลงทุนใน 4 สินทรัพย์หลัก ได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศต่างประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ เพื่อมุ่งเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นไปที่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีการกระจายตัวของประเภทสินทรัพย์หลากหลายกว่า และมีการกระจายลงทุนทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ลดการลงทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในไทยลง เนื่องจากมีสภาพคล่องอยู่ระดับต่ำ และเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว หาทดแทนได้ยาก และมีความสามารถในการขึ้นอัตราค่าเช่าได้แทน

พร้อมกันนี้ กองทุนยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยมองว่าเป็นกระแสรายได้ของกองทุน/ หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน ค่อนข้างมั่นคงและผันผวนต่ำ เนื่องจากการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเป็นบริการที่ผู้บริโภคยังจำเป็นต้องใช้ โดยไม่ได้อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจ นอกจากนี้รายได้จากโครงสร้างพื้นฐานยังผูกผันสัญญาระยะยาวหรือสัมปทานจากรัฐบาล ช่วยให้มีรายได้ที่สม่ำเสมอและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้

“เรามองว่าเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ระดับใกล้เคียงก่อนเกิด COVID-19 จากการที่วัคซีนเริ่มมีการแจกจ่ายในหลายประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจและความมั่นใจของผู้บริโภคเริ่มกลับมาอย่างเต็มที่ส่งผลดีต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อที่มีโอกาสเร่งตัวสูงขึ้นเป็นผลดีต่อการปรับขึ้นค่าเช่า ในด้านหุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่ defensive กว่าอาจปรับตัวขึ้นน้อยกว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่มีลักษณะผันตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามถือเป็นตัวที่ช่วยพยุงพอร์ตการลงทุนได้ ในกรณีที่เศรษฐกิจไม่ได้เติบโตเร็วอย่างที่คาดหวัง” นางเมธ์วดี กล่าว

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews