Phones





SCBS ชี้ตลาดหุ้นไทยอ่วมพิษโควิด-19

2021-04-28 17:49:57 307




นิวส์ คอนเน็คท์ – SCBS ประเมินการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2-3 ของปี 64 ไม่สดใส ประเมิน SET Index ปี 64 บนภาพปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,550 จุด แนะกลยุทธ์การลงทุนซื้อสะสมในจังหวะที่ตลาดแกว่งตัวลง พร้อมเพิ่มน้ำหนักหุ้นเชิงรับมากขึ้น


เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ภาพรวมของการลงทุนในปี 64 มีประเด็นความเสี่ยงที่แตกต่างจากปี 63 โดยมองว่าความเสี่ยงทางเศรษฐกิจกำลังลดลงแต่ความเสี่ยงด้านตลาดการเงิน (market risk) กำลังเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่า ความเสี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของปี 64 จะไม่สูงเท่ากับปี 63 แม้การระบาดของโควิด-19 ยังไม่จบ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว มาตรการ Lockdown ช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดี และวัคซีนก็เป็นความหวังที่จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดประเทศ


ทั้งนี้ SCBS เคยคาดว่า เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตได้ใกล้ระดับ 3% ในปี 64 แต่จากการระบาดของโควิด-19 ใน 2 รอบล่าสุด ทำให้การคาดการณ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงถูกปรับลดลง แต่ยังคงเชื่อว่าการบริโภคในประเทศและการส่งออกในปี 64 ยังคงสามารถเติบโตได้ดีจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยงล่าช้ากว่าคาด


สำหรับสาเหตุที่ SCBS ประเมินว่า ความเสี่ยงด้านตลาดการเงินจะสูงขึ้น เนื่องจากการที่สภาพคล่องทางการเงินอยู่ในระดับสูงจากการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายได้ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นเร็วมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาแม้เกิดวิกฤติโควิด-19 รวมทั้งความคาดหวังของนักลงทุนต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและวัคซีนอยู่ในระดับที่สูงสะท้อนไปที่ valuation ของตลาดหุ้นในปัจจุบัน ดังนั้น หากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลังลดระดับลง ในขณะที่ตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มปรับตัวขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2/64 เป็นต้นไป ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดมีโอกาสส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนเพิ่มขึ้นได้


นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป คือ สถานการณ์ของโควิด-19 หลังจากมีการฉีดวัคซีนแล้วว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้ขนาดไหน เพราะจะมีผลต่อการเปิดประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นตัวอย่างจากบางประเทศเร็วๆนี้ เช่น สหรัฐฯ และ อังกฤษ


ในส่วนตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากช่วงความคาดหวัง (Hope) ซึ่งสะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของราคานั้นมาจากการขยายตัวของ Valuation และ กำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโต (Growth) ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยจะไปในทิศทางเดียวกับผลประกอบการ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปจะมีความสัมพันธ์มากขึ้นกับแนวโน้มกำไรและปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัท โดยล่าสุด ประเมินว่า EPS ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 46% และ 21% ในปี 64 และ 65 ตามลำดับ


ทั้งนี้ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะเป็นการแกว่งตัวมากขึ้นหลังจากระดับ SET Index ฟื้นตัวมาใกล้กับช่วงก่อนวิกฤติ COVID-19 รวมถึงใกล้เคียงกับระดับ 1550 ซึ่งเป็นการประเมินมูลค่าจากปัจจัยพื้นฐาน ในขณะที่ภาพของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานยังไม่ต่อเนื่อง เพราะการระบาดของโควิด-19 ยังไม่จบ ดังนั้น การลงทุนในช่วงไตรมาสที่ 2-3/64 จึงแนะนำให้หันมาเน้นหุ้นที่ปลอดภัยและมีลักษณะเชิงรับที่มีการเติบโต รวมถึงลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนไตรมาสที่ 4/64 คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้นหลังจากเริ่มมีการฉีดวัคซีนแล้ว นักลงทุนค่อยปรับพอร์ตมาเน้นหุ้นที่สามารถเติบโตได้จากความสามารถในการแข่งขันหลังโควิด-19 รวมถึง หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศหากราคาไม่สูงเกินไป


สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 2/64 ถือว่าเป็นช่วงเข้าสู่ Low season ของตลาดหุ้น โดย SCBS คาดว่าจะเกิด Sell in May ซึ่งเป็นการประเมินจากสถิติของตลาดหุ้นไทยว่าเมื่อผลตอบแทนในช่วงเดือน พ.ย.ถึง เม.ย. เป็นบวก ในอดีตจะเผชิญกับการ Sell in May แต่ในการย่อตัวมองว่าเป็นจังหวะในการซื้อเพื่อให้สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว หุ้นแนะนำประจำไตรมาสที่ 2/64 ได้แก่ BDMS MINT BEM TWPC DOD


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews