Phones





KWM เจาะตลาดCLMV เล็งตั้งโรงสกัดกัญชง

2021-05-05 15:15:38 274




นิวส์ คอนเน็คท์ - KWM มั่นใจรายได้ปี64 โตไม่ต่ำกว่า 15% หลังคนเมืองแห่กลับภูมิลำเนาทำการเกษตร หนุนยอดขายอุปกรณ์การเกษตรโตต่อเนื่อง ผนึกพันธมิตรเจาะตลาด CLMV ยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไทยสู่ระบบโมเดิร์นฟาร์ม จ่อยื่นขอไลเซ่นส์ตั้งโรงสกัดกัญชงและกัญชา


เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า มั่นใจรายได้ปี 64 โตไม่ต่ำกว่า 15% จากปี 63 ที่มีรายได้อยู่ที่ 355.06 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมธุรกิจในขณะนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากอานิสงส์จากปัจจัยด้านฤดูกาลเพาะปลูกของภาคการเกษตร ประกอบกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้ประชากรคนในเมืองส่วนใหญ่ตัดสินใจย้ายกลับเข้าไปทำอาชีพภาคการเกษตรในภูมิลำเนาตามต่างจังหวัด ส่งผลให้เร่งผลักดันการเติบโตของยอดขายสินค้าเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับสัดส่วนรายได้เเบ่งเป็นการเติบโตทั้ง 2 กลุ่มหลัก ประกอบด้วยสินค้าการเกษตรที่ผลิตให้กับกลุ่มบริษัทการเกษตรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% ส่วนสินค้าภายใต้แบรนด์ “Pegasus” ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเองที่ผลิตอุปกรณ์การเกษตร เช่น ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 20%


ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทมีแผนเพิ่มสินค้าอุปกรณ์การเกษตรรูปแบบใหม่ๆภายใต้แบรนด์ “Pegasus” เพื่อต้องการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและยังเป็นส่วนช่วยเสริมศักยภาพทำกำไรในอนาคตให้ดีขึ้น


นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาขยายสินค้าเข้าไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยจะนำร่องกลุ่มประเทศกลุ่ม CLMV ซึ่งจะเป็นลักษณะการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีเครือข่ายและช่องทางการจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์การเกษตรในประเทศกลุ่ม CLMV เบื้องต้นคาดว่าแผนการขยายตลาดต่างประเทศน่าจะมีความชัดเจนภายในปี 65


ส่วนความคืบหน้าแผนขยายเข้าสู่ธุรกิจกัญชงและกัญชานั้น ปัจจุบันบริษัทมีความสนใจยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานสกัดกัญชงและกัญชาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเป็นการดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจโรงงานสกัดกัญชงและกัญชงในการต่อยอดพัฒนาเพื่อวิจัยในการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพหลายราย อาทิ ความร่วมมือกับ บริษัท เอ็น.อี.เฮมพ์ จำกัด (N.E.Hemp) เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบเพาะปลูกและพัฒนาสายพันธุ์เพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบคุณภาพที่มีสาร THC และ CBD ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน อย.ที่กำหนดไว้ในข้อกฎหมาย


นอกจากนี้บริษัทมีแนวทางจัดตั้งบริษัทย่อยอีก 1 แห่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรต่อยอดประกอบธุรกิจโรงงานสกัดสารประเภทอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกัญชงและกัญชา โดยจะมุ่งเน้นสารสกัด ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร เพื่อนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางเป็นหลักตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างประเทศ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews