นิวส์ คอนเน็คท์ - “ธนาคารทหารไทยธนชาต” กางแผนธุรกิจปี 64 เน้นการดูแลลูกค้าเก่า พร้อมส่งมอบโซลูชั่นทางการเงินใหม่ๆให้กับลูกค้า หลังดำเนินการรวมกิจการเสร็จสิ้น นำเสนอโปรดักส์ที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มลูกค้า

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ttb เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของธนาคารในปี 64 จะให้ความสำคัญกับการดูแลกลุ่มลูกค้าเก่าของธนาคารเป็นหลัก และคงไม่เน้นหาลูกค้าใหม่มากนัก โดยธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบดของโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละรายแตกต่างกัน เช่น ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ต้องการสภาพคล่องที่มากขึ้น ธนาคารจะนำเสนอสินเชื่อพิเศษ ส่วนกลุ่มโรงแรมจะมีโครงการ “โกดังเก็บหนี้” (Asset Warehousing)  

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รอบนี้มีลูกค้าเข้ามาขอรับความช่วยเหลือน้อยกว่าครั้งก่อน ซึ่งในการระบาดรอบแรกธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าไปจำนวน 750,000 ราย โดยประมาณ 90% ของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเมื่อพ้นการล็อกดาวน์ก็สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ   

สำหรับความคืบหน้าการรวมพนักงานของทั้งธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาตนั้น ปัจจุบันดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% ผนึกเป็น One Team ที่พร้อมจะสานต่อ One Dream ที่มีร่วมกัน คือ การสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ ผ่านโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง พร้อมฝ่าอุปสรรค และ สามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19  

ทั้งนี้ One Team ที่จะร่วมกันสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ พร้อมให้ทุกคนจดจำในชื่อใหม่ว่า ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb และ ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยในปีนี้ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ได้ลำดับความสำคัญทางธุรกิจที่จะเร่งดำเนินการไว้ 3 เรื่อง ได้แก่ ขยายฐานลูกค้าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก (main bank) ผ่าน Financial Well-being solution , สร้างศักยภาพทางด้าน “Digital-first operating model” บนโมบายแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม และ สร้างศักยภาพบุคลากร (People development) เพื่อสนับสนุนการสร้าง Humanized digital  

ด้านนายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ttb กล่าวว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าบุคคลมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยยึดความต้องการ และ เป้าหมายของลูกค้าเป็นที่ตั้ง โดยได้ออกแบบโซลูชั่นทางการเงินที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิต 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงาน ธนาคารจะเน้นโซลูชันด้านฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง, กลุ่มลูกค้าที่เริ่มสร้างครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ต้องการชีวิตอิสระในวันข้างหน้า, กลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ต้องการมีชีวิตที่มั่นคงและเกษียณอย่างไร้กังวล และ กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง เตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ อยากใช้ชีวิตได้ตามใจ  

ขณะที่นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ttb กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้า และคู่ค้า ด้วยโครงการ “ตั้งหลัก” ซึ่งช่วยลูกค้า ผ่อนหนักเป็นเบาได้กว่า 600,000 รายทั่วประเทศ และ มอบประกันคุ้มครองไวรัสโควิด-19 ให้แก่บริษัทคู่ค้าทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ  

สำหรับธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารในปีนี้ภายใต้แบรนด์ ttbDRIVE พร้อมขับเคลื่อนสนับสนุนครอบคลุมทุกภาคส่วนใน ecosystem ของธุรกิจรถยนต์ ด้วยภารกิจ “มากกว่าสินเชื่อรถ... เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น” ได้แก่ พร้อมขับเคลื่อนให้ลูกค้าไปต่อ, พร้อมขับเคลื่อนให้ธุรกิจคู่ค้าไม่สะดุด และพร้อมยกระดับศักยภาพทีมงาน  

นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ttb กล่าวว่า เป้าหมายของธนาคาร คือ การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอีไว้วางใจให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 โซลูชั่น เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นของลูกค้าธุรกิจ ได้แก่ มอบแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ, มอบโซลูชั่น และบริการที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจ และ มอบชีวิตทางการเงินที่ดีให้แก่พนักงานและคู่ค้า  

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ttb กล่าวว่า ภายหลังการรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ทุกผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ลูกค้าทีเอ็มบีเดิม สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการได้เหมือนเดิมภายใต้แบรนด์ใหม่ สำหรับลูกค้าธนชาตเดิม หลังการรวมระบบในเดือนกรกฎาคมสำเร็จ ผลิตภัณฑ์ และบริการเดิมจะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด รวมไปถึงการเพิ่มเติมในสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยลูกค้าธนชาตจะได้รับจดหมายแจ้งรายละเอียด ซึ่งจะมี QR Code ให้สแกนเข้าไปดูข้อมูลเฉพาะของแต่ละบุคคล และจดหมายนี้จะทยอยส่งไปหาลูกค้าตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.เป็นต้นไป

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews