นิวส์ คอนเน็คท์ - SAWAD ยันโครงการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ดอกเบี้ยต่ำ ของ "เงินสดทันใจ" ไม่กระทบภาพรวมผลการดำเนินงานกลุ่มศรีสวัสดิ์ มั่นใจกำไรทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามประมาณการ
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า โครงการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ของ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ที่มีธนาคารออมสินร่วมเป็นพันธมิตรถือหุ้น ในอัตราดอกเบี้ยประมาณ 10-11% ถือเป็นการช่วยเหลือลูกค้าในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
โดยโครงการดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการของกลุ่มศรีสวัสดิ์ เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อที่มีธนาคารออมสินเป็นพันธมิตรนั้น คิดเป็นสัดส่วนแค่ 20% ของพอร์ตสินเชื่อกลุ่มศรีสวัสดิ์ แต่ขณะเดียวกัน จากโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้พอร์ตลูกค้าในส่วนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์เติบโตเป็นสัดส่วน 50% ของพอร์ตรวม และบริษัทจะมีรายได้จากค่านายหน้าขายประกัน (โบรกเกอร์) และค่าบริการเพิ่มขึ้น เข้ามาชดเชยอัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยที่ลดลง
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ SAWAD ในปีนี้ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิมพอร์ตสินเชื่อเติบโต 15-20% และกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามประมาณการ โดยบริษัทมีการให้บริการสินเชื่อครบวงจร ทั้งที่เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักยานยนต์ รถยนต์ บ้าน ที่ดิน รวมทั้งมีสินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์
“โครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำของเงินสดทันใจ ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ถือเป็นการช่วยเหลือลูกค้า พอร์ตสินเชื่อในส่วนนี้เราร่วมกับธนาคารออมสิน คิดเป็นแค่ 20% ของพอร์ตรวม ไม่กระทบต่อภาพรวมอยู่แล้ว SAWAD มั่นใจการบริหารจัดการของกลุ่มสามารถดูแลทั้งลูกค้า และดูแลผลตอบแทนผู้ถือหุ้นไปพร้อมๆ กันได้ ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ” นางสาวดวงใจ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีนี้กลุ่มศรีสวัสดิ์ ถือว่ามีความพร้อมในการรุกธุรกิจมาก ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศน่าจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย หลังจากที่รัฐบาลเตรียมนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน SAWAD ก็พร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กับภาครัฐ
>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews