Phones





CGS แนะ"สะสม"กลุ่มค้าปลีก-ศูนย์การค้า-สื่อนอกบ้าน

2021-05-24 10:49:56 483



นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.คันทรี่ กรุ๊ป ชี้รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีน คุมยอดติดเชื้อได้ดีขึ้น แนะ "สะสม" กลุ่มค้าปลีก ร้านอาหาร ศูนย์การค้า สนามบิน รถไฟฟ้า สื่อนอกบ้าน 

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ได้ออกบทวิเคราะห์ โดยระบุว่า การระบาดของ COVID-19 ภายในประเทศ ที่ล่าสุดพบเจอสายพันธุ์จากอินเดียและแอฟริกาใต้ อาจสร้างแรงกดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยบ้าง แต่ไม่ได้มองว่าจะสร้างแรงกดดันอย่างมีนัยยะ เนื่องจากเชื่อตลาดจะให้น้ำหนักกับการมาของ Vaccine 

ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากทาง ศบค. ในวันศุกร์ระบุว่า ตั้งแต่ 7 มิ.ย. 21 เป็นต้นไปจะกำหนดให้ Vaccine เป็นวาระแห่งชาติ เบื้องต้นกำหนดเป้าหมายฉีด Vaccine วันละ 8.6 แสนคน (ทั้งประเทศ) สำหรับข้อมูลการฉีด Vaccine ในอดีตของประเทศไทยพบว่าปริมาณ Dose สูงสุดต่อวันอยู่ที่เพียง 1.6 แสนโดส หรือ 1.6 แสนคน/วัน ดังนั้น เป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ข้างต้น เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างสูง แต่ถึงกระนั้น มองว่าเป็นเรื่องดีที่ภาครัฐกลับมาจริงจังเรื่องของ Vaccine แม้จะตั้งเป้าสูงก็ตาม ดังนั้น คงมุมมองเดิมคือเชื่อ Domestic Outperform ในครึ่งปีหลังตามการควบคุมผู้ติดเชื้อที่จะดีขึ้นรวมไปถึงการกระจาย Vaccine และปี 2022 เชื่อจะเป็นปีแห่งการค่อยๆ ฟื้นตัว

ด้านราคาหุ้นปัจจุบัน มองว่าสะท้อนปัจจัยลบจากการระบาดรอบ 3 และงบที่จะอ่อนแอในช่วง Q2/64 ไปแล้ว จึงคงมุมมอง "ทยอยสะสม" เช่นเดิม โดยกลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำทยอยสะสม ค้าปลีก (BJC CPALL CRC HMPRO) ร้านอาหาร (M) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BEM BTS) เครื่องดื่ม (TACC) ส่วนเก็งกำไรระยะสั้นยังมองหุ้นอิงรายได้ต่างประเทศเป็นหลักน่าสนใจกว่า (ASIAN MEGA MINT IVL TU) Global Play (PTT PTTEP PTTGC) รับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) สัปดาห์นี้จะมีการประมูลรถไฟรางคู่บ้านไผ่ – นครพนม

โดย MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36 บาท) มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วง 2H21 ที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากการกลับมาเติบโตในฝั่งยุโรป โดยบริษัทมีรายได้รวมจากฝั่งยุโรปสูงสุดราว 55% และ JKN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.9 บาท) รายงานกำไรสุทธิ Q1/64 ที่ 100 ล้านบาท (+106%YoY, +5%QoQ) เป็นจุดสูงสุดใหม่จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 47.8% จากค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงตามสัญญาการให้บริการคอนเทนต์ที่ถูกยืดระยะเวลาออกไป เพื่อช่วยเยียวยาผู้ประกอบการในช่วงโควิด-1.