Phones





SCBS CIOชี้ศก.ทั่วโลกฟื้นตัวไม่เท่ากัน

2021-07-08 16:50:55 738



 
SCBS CIO ประเมินเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวต่างกันในวันที่โควิด-19 ยังไม่จบ เน้นลงทุนตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว หุ้นกลุ่ม Growth At Reasonable Price มีความน่าสนใจมากขึ้น
 
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 นายศรชัย สุเนต์ตา กรรมการผู้จัดการ SCBS CIO เปิดเผยว่า แนวโน้มสำคัญของเศรษฐกิจโลกประกอบไปด้วย การเปิดเมืองยังมีความแตกต่างกัน เศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯผ่านจุดเติบโตสูงสุดในขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวชัดเจน และนโยบายภาครัฐเริ่มผ่อนคลายลดลง โดยในรายละเอียดการเปิดเมืองยังมีความแตกต่างกันตามคาดความคืบหน้าการฉีดวัคซีน โดยเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯผ่านจุดเติบโตสูงสุด ในส่วนของยุโรปและญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง
 
ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ Emerging Markets (EMs) ยังแตกต่างกันมาก ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายลงหลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอลงและท่าทีของ Fed ที่มีแนวโน้มพร้อมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด (Hawkish) โดยตัวเลขตลาดแรงงานและการสื่อสารของธนาคารกลางสหรัญ(เฟด) จะมีความสำคัญต่อตลาดมากขึ้น โดย SCBS CIO คงมุมมองเฟดส่งสัญญาณแบบค่อยเป็นค่อยไปในการทำ QE taper ในช่วงปลายไตรมาส 3/64 และขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกปี 66 นอกจากนั้น แรงกระตุ้นทางการคลังเริ่มแผ่วลงในกลุ่ม Developed Markets (DMs) โดยเฉพาะในสหรัฐฯ
 
อย่างไรก็ตามขนาดของโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เล็กกว่าคาดจะทำให้การขึ้นภาษีเพื่อโครงการเหล่านั้นน้อยกว่าคาดด้วย โดยปัจจัยเสี่ยงหลักในไตรมาสที่ 3/64 ประกอบด้วย 1) เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด, 2) ความเสี่ยงด้านนโยบายต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และ 3) การกลับมาของความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน
 
สำหรับแนวโน้มตลาดการเงินโลก SCBS CIO ประเมินว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้นอย่างช้าๆ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอลงจากอุปทานที่ฟื้นตัว โดยจากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่กำลังจะผ่านจุดเติบโตสูงสุด และสัญญาณการปรับนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปของเฟดน่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นแบบช้าๆ โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว ซึ่งจะทำให้ yield curve ของสหรัฐฯ มีลักษณะแบบ flattening ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัว อย่างน้อยจนกว่า ECB จะปรับท่าทีแบบผ่อนคลายนโยบายน้อยลง โดยจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวบวกกับอุปทานที่ฟื้นตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์น่าจะเริ่มชะลอลง ยกเว้นสินค้าที่ต้องใช้เวลาในการเพิ่มอุปทาน เช่น semiconductors.

 
ด้านดร.กำพล อดิเรกสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า กลยุทธ์ในการจัดพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลก (Asset Allocation Portfolio Strategy) SCBS CIO คงมุมมองบวกต่อหุ้น DM; ปรับน้ำหนักหุ้นกลุ่ม value/growth เป็น 40/60 เน้นกลุ่ม GARP; ปรับน้ำมันเป็น Neutral
 
ทั้งนี้ ด้วยอัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนที่ยังปรับขึ้นแม้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป SCBS CIO ยังคงชอบหุ้นมากกว่าพันธบัตรและเงินสด โดยยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่ม DM โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ และปรับน้ำหนักหุ้นกลุ่ม value/growth เป็น 40/60 โดยเน้นหุ้นกลุ่ม Growth At Reasonable Price
 
สำหรับความกังวลเรื่อง QE taper อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่ม EMs โดยเฉพาะประเทศที่มีการขาดดุลการคลังและดุลบัญชีเดินสะพัดสูง (large twin deficit) ขณะที่ยังคงมุมมอง slightly positive จากมูลค่าที่น่าสนใจต่อหุ้นจีนและญี่ปุ่น นอกจากนั้นเราเชื่อว่าตลาดหุ้นจีนได้มีการ priced-in ความเสี่ยงด้านนโยบายไปบ้างแล้ว โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบ selective buy ส่วนการฟื้นตัวของหุ้นญี่ปุ่นน่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนที่กำลังดีขึ้น รวมถึงคงมุมมองเวียดนามยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุนที่สุดใน ASEAN เราปรับมุมมอง SET เป็น slightly positive จากมูลค่าหุ้นที่กลับมาน่าสนใจโดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบ selective buy
 
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่เริ่มฟื้นตัว และอุปทานที่เริ่มกลับมา SCBS CIO ปรับมุมมองน้ำมันเป็น Neutral รวมทั้งคงมุมมองต่อ DM REITs เป็น slightly negative เนื่องมูลค่าที่ตึงตัวและความกังวลการกลับมาขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดของ Fed อย่างไรก็ตาม ยังคงมุมมอง slightly positive กับ Asian REITs จากความคืบหน้าในการเปิดเมืองในช่วงครึ่งหลังปี 64 มูลค่าที่ยังน่าสนใจ และการขึ้นดอกเบี้ยที่น่าจะช้ากว่าในกรณีของประเทศ DMs