Phones





GUNKUL ฟันธง! รายได้ปีหน้าชนหมื่นล.

2019-09-10 17:30:00 168




นิวส์ คอนเน็คท์ - GUNKUL รับอานิสงส์พายุโซนร้อน “วิภา-โพดุล” ถล่มภาคอีสาน-เหนือ ส่งผลบวกต่อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ห้วยบง หนุนกำลังการผลิตพุ่ง รวมถึงช่วงครึ่งปีหลังจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้าน MD ฟันธงรายได้ปีนี้แตะ 8 พันล้านบาท ส่วนปีหน้าได้ลุ้นทะลุหมื่นล้านบาท หลังลุยชิงงานใหม่ - ขายไฟเพิ่มต่อเนื่อง


นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า โดยปกติ ผลประกอบการของบริษัทฯ จะทำจุดสูงสุดในไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นฤดูมรสุมทำให้ Capacity Factor ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมทำระดับสูงสุดของปี และไตรมาส 3 ปีนี้เช่นกัน รายได้จากพลังงานลมน่าจะสูงกว่าปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากพายุโซนร้อน วิภา-โพดุล ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ ตำบลห้วยบง จึงส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานโครงการลมของบริษัทฯ รวมทั้งรายได้จากการขายไฟฟ้าน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน


นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เซนได และคิมิทสึ ในประเทศญี่ปุ่นและยังทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์รูฟท็อปรูปแบบ Private PPA ในประเทศเข้ามาอีกด้วย จึงทำให้เชื่อมั่นว่าช่วงที่เหลือของปีนี้ ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง


สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น และเติบโตกว่าปีก่อนทุกไตรมาส โดยยังคงเป้าหมายการเติบโตปีนี้ไม่น้อยกว่า 30% หรือ 8,000 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ประมาณ 6,000 ล้านบาท



ด้านนายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ GUNKUL เปิดเผยในงาน Opportuniy day ว่า บริษัทฯ มั่นใจกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น พร้อมด้วยรายได้จะมากกว่า 8,000ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้บางส่วน พร้อมทั้งยังประมูลงานใหม่ประเภท EPC อย่างต่อเนื่อง หรือประมาณ 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อหวังได้งานบางส่วน และต้องการรักษาระดับ Backlogให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


ล่าสุดบริษัทได้เข้าร่วมประมูลงานประเภท EPC ได้แก่ เคเบิ้ลใต้น้ำ บริเวณ เกาะเต่า-สมุย-ปันหยี มูลค่าราว 3,500 ล้านบาท โดยคาดจะได้ข้อสรุปภายในระยะ 45 วันจากนี้


ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแผนเข้าลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มและพลังงานลมในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้งบลงทุนราวกว่า 60 ล้านเหรียญฯ หรือกว่า 1,800 ล้านบาท โดยมีแหล่งเงินทุนจากเงินสดหมุนเวียนและกู้สถาบันการเงิน และยังมีโครงการลม 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 180 เมกกะวัตต์ โดยโครงการลมบริษัทฯจะเข้าไปถือหุ้น 60-70% และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณเดือนพฤศจิการยน 2564 ซึ่ง อีกทั้ง อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรที่ไต้หวัน เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลม คาดเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 1/2563


สำหรับแนวโน้มรายได้ในปีหน้าคาดทำได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท ตามกำลังการผลิตที่สูงขึ้นและการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาเริ่มดำเนินการได้เต็ม 100% ในทุกโครงการ พร้อมทั้งยังรับรู้จาก Backlog อีกจำนวนมาก