นิวส์ คอนเน็คท์ - BANPU ยัน ระยะสั้นไม่สนใจลงทุนตามแผนพีดีพี เผยในไทยมุ่งเน้นลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงาน ให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป คาดสิ้นปีมี 175 เมกะวัตต์ พร้อมนำร่องให้บริการรถสามล้อไฟฟ้าตามสถานีรถไฟฟ้า วางเป้าสิ้นปี 63 มีให้บริการ 100 จุด

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจร (Integrated Energy Solutions) แห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่า ในช่วงระยะสั้น บริษัทยังไม่สนใจลงทุนตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) เนื่องจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ตามแผนพีดีพี หลายโครงการนั้น มีระยะเวลาอีกหลายปีที่จะต้องมีการลงทุน

โดยในประเทศไทย จะมุ่งเน้นลงทุนด้านเทคโนโลยีพลังงาน เดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด (BPIN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการด้านการวางระบบ Solar Rooftop บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ และอาคารจอดรถ 2-3 ของศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีกำลังการผลิตรวม 1 เมกะวัตต์

ดังนั้น จึงส่งผลให้ปัจจุบันบ้านปูฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 89 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามสิ้นปี 62 นั้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังค้าเป็น 175 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นในไทย 25 เมกะวัตต์ ต่างประเทศ 150 เมกะวัตต์ ช่วยสนับสนุนรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมลงทุนกับบริษัท Durapower Technology (Singapore) Pte. Ltd. ในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิตและติดตั้งระบบแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนในอุตสาหกรรมยานยนต์และระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบ้านปูฯ ยังได้ขยายกำลังการผลิตของโรงงานที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว (Suzhou) สาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มเติมจาก 80 เมกะวัตต์ชั่วโมง เป็น 380 เมกะวัตต์ชั่วโมง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปูฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด

ขณะเดียวกัน บริษัทร่วมลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ FOMM สัญชาติญี่ปุ่น โครงการนำร่องรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า และแอปพลิเคชัน “MuvMi” มาจาก Move me ซึ่งบ้านปูลงทุนสัดส่วน 22% นำร่องในการให้บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ และสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ และมีเป้าหมายขยายการให้บริการ 100 จุดภายในปี 63