Phones





TMB เสริมแกร่ง-รองรับควบธนชาต

2019-07-28 22:52:05 188






นิวส์ คอนเน็คท์ – TMB เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความแข็งแกร่งของคุณภาพสินทรัพย์ รองรับการควบรวมกิจการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้านผลประกอบการไตรมาส 2/62 ยังฟาดกำไรสุทธิ 1,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้า


นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/62 ของธนาคารมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก โดยมีกำไรก่อนหักสำรองฯอยู่ที่ราว 4,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ดีขึ้น รวมถึงการจัดการด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดี


ในส่วนของคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารยังคงดูแลอย่างใกล้ชิดและดำเนินการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ทำให้ในไตรมาส 2 มีการตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 2,490 ล้านบาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายสำรองฯ และภาษีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้า


ทั้งนี้ ธนาคารให้ความสำคัญกับการขยายฐานเงินฝากจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก เน้นเลือกปล่อยสินเชื่อใหม่อย่างรอบคอบ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตปัจจุบัน เพื่อเสริมฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อรองรับดีลการควบรวมกิจการที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเงินฝากลูกค้ารายย่อยซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่ภาพรวม 6 เดือนแรกของปี เงินฝากจากฐานลูกค้ารายย่อยเติบโต 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากสิ้นปี 61 แต่ในส่วนของเงินฝากฐานลูกค้าธุรกิจลดลง 4.2 พันล้านบาท หรือลดลง 2.1% ส่งผลให้ฐานเงินฝากในไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 6.49 แสนล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับ 6.5 แสนล้านบาทเมื่อช่วงสิ้นปี 61


สำหรับภาพรวมสินเชื่อในไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 6.80 แสนล้านบาท ลดลงจาก 6.86 แสนล้านบาทเมื่อช่วงสิ้นปี 61 ซึ่งเป็นผลจากการชำระคืนหนี้ของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งผลจากการดำเนินการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลาง ขณะที่สินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัวได้ต่อจากไตรมาสที่แล้ว ส่งผลให้โดยรวม 6 เดือนแรก สินเชื่อรายย่อยขยายตัวได้ที่ 6.4% ซึ่งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวได้ที่ 7.7% ในส่วนของการให้สินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กรายใหม่ ยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากธนาคารเลือกปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง


ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารมีสัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.74% ลดลงจาก 2.81% จากไตรมาสก่อน และอัตราส่วนสำรองฯ ต่อหนี้เสีย ซึ่งสะท้อนความสามารถในการรองรับความเสี่ยงอยู่ที่ 140% โดยยังคงเป้าหมายปี 2562 ให้สัดส่วน NPL อยู่ในระดับต่ำกว่า 2.9% และคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อหนี้เสียให้สูงกว่า 140%