Phones





SCBแนะเคล็ดลับก่อนลงทุนแฟรนไชส์

2021-08-05 17:00:31 292



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB มองเทรนด์การทำงานของโลกหลังโควิด-19 คนจะมองหาอาชีพเสริมมากขึ้น เพื่อสร้างอิสระและความยืดหยุ่นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในยามวิกฤต ชี้ “ธุรกิจแฟรนไชส์” เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และอาจสร้างเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นได้
 
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ในขณะที่ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างปรับตัวรอให้สภาวะทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ระหว่างนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีของการศึกษาธุรกิจ รูปแบบการทำงาน และวางแผนการลงทุน เป็นโอกาสสำหรับว่าที่ผู้ประกอบการใหม่ที่ควรคว้าเอาไว้ เพราะการวางแผนบริหารต้นทุนทางการเงินควบคู่กับการวางแผนธุรกิจที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยปูทางสู่โอกาสในวันข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
 
ทั้งนี้ “ธุรกิจแฟรนไชส์” เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยศักยภาพของแฟรนไชส์ในประเทศไทยที่สามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ อีกทั้งความหลากหลายของประเภทธุรกิจ และขนาดของการลงทุนแฟรนไชส์ที่มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลายสิบล้านบาท จึงรองรับความต้องการลงทุนที่แตกต่างกันของผู้ประกอบการแต่ละรายได้เป็นอย่างดี
 
อย่างไรก็ตาม ธนาคารจึงมีคำแนะนำ “5 พื้นฐานต้องรู้ ก่อนลงทุนแฟรนไชส์เพื่อสร้างกำไรอย่างที่ต้องการ” เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวสำหรับผู้สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ทุกคน ดังนี้
 
1.สำรวจความต้องการและเงื่อนไขของตัวเอง เพื่อช่วยหาไอเดียของประเภทธุรกิจที่เราควรลงทุน เพราะการทำธุรกิจในสิ่งที่ชอบและถนัดจะช่วยให้เข้าใจระบบของธุรกิจได้ง่ายขึ้นและอยู่กับธุรกิจนั้นได้นาน ขณะเดียวกันจำเป็นต้องรู้เงื่อนไขของตัวเองเพื่อหารูปแบบแฟรนไชส์ที่เหมาะสม หากต้องการทำธุรกิจที่มีอิสระในการบริการจัดการด้วยตัวเอง ต้องมองหาแฟรนไชส์ในลักษณะ Products Franchise ที่ให้เฉพาะสิทธิ์ในเรื่องวัตถุดิบ การขายสินค้า และเครื่องหมายการค้า ซึ่งแตกต่างจาก Business Format Franchise ที่ให้สิทธิ์พร้อมระบบและวิธีการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เป็นแนวทางให้ปฏิบัติได้ง่าย
 
2.ศึกษารายละเอียดต้นทุน ค่าธรรมเนียม และระยะเวลาคืนทุน แฟรนไชส์แต่ละแบรนด์มีจำนวนค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) และค่าธรรมเนียมสนับสนุนต่อเนื่อง (Royalty Fee) ที่ Franchisor จะเรียกเก็บโดยกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ผู้สนใจลงทุนจะต้องวิเคราะห์ดูว่าค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เรียกเก็บนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ มีสิ่งใดตอบแทนกลับมาจากค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายตลอดการดำเนินธุรกิจ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนก่อสร้าง การตกแต่งสถานที่ และค่าอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ร้านแฟรนไชส์นั้นสามารถดำเนินกิจการได้
 
นอกจากนี้ควรพิจารณาในเรื่องของระยะเวลาคืนทุน ซึ่งควรมีระยะเวลาคืนทุนสอดคล้องกับสัญญาแฟรนไชส์เพื่อเป็นหลักประกันได้ว่า การลงทุนแฟรนไชส์นั้น ผู้ลงทุนจะมีกำไรที่มากขึ้นภายหลังจากระยะเวลาคืนทุน ซึ่งเป็นระยะเวลาเก็บเกี่ยวรายได้ของธุรกิจแฟรนไชส์ 
3.วิเคราะห์ศักยภาพของแฟรนไชส์ที่จะลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใด จะต้องวิเคราะห์ตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ให้ชัด คุณค่าของสินค้าและบริการต้องแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจประเภทเดียวกัน และต้องมั่นใจว่า Franchisor มีเป้าหมายธุรกิจในอนาคตและมีวิธีการทำให้เป้าหมายเกิดขึ้นจริงอย่างชัดเจน และมีข้อมูลความสำเร็จที่น่าเชื่อถือของ Franchisee ปัจจุบันให้เห็นอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนเองจำเป็นต้องลงศึกษาพื้นที่จริงในหลายๆ สาขา เพื่อทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ คู่แข่ง และกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องก่อนตัดสินใจเดินหน้าลงทุน
 
4.การสนับสนุนและช่วยเหลือจากเจ้าของสิทธิ์ เพราะ Franchisor คือพี่เลี้ยงในการทำธุรกิจ จึงต้องพร้อมเคียงข้างช่วยสนับสนุนให้กิจการของเราไปได้ตลอดอายุสัญญา ก่อนลงทุนจึงต้องมั่นใจว่า Franchisor จะมีการถ่ายทอดโมเดลธุรกิจให้กับ Franchisee ผ่านการอบรมหรือเทรนนิ่งอย่างทั่วถึงด้วยมาตรฐานเดียวกัน และไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ Franchisee เมื่อธุรกิจเกิดปัญหาจะต้องมีระบบที่ดีสามารถส่งทีมเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัก และในกรณีประสบวิกฤตเจ้าของแฟรนไชส์มีนโยบายเข้ามาช่วยดูแลหรือไม่อย่างไร ในวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้เราได้เห็นเจ้าของแฟรนไชส์หลายแบรนด์ที่ไม่ทอดทิ้งให้ Franchisee ต่อสู้เพียงลำพัง นับเป็นองค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน   
 
5.เงินทุนในการดำเนินธุรกิจ หากเรามีเงินทุนของตัวเองเพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเริ่มต้นธุรกิจและมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะใช้หมุนเวียนธุรกิจก็ไม่จำเป็นต้องหาแหล่งทุนอื่น สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ทันที แต่หากมีเงินทุนไม่เพียงพอ หรือต้องการเก็บเงินทุนของตนเองเพื่อไปเสริมสภาพคล่องในเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถแจ้งความต้องการไปยัง Franchisor เพื่อช่วยประสานกับธนาคารพันธมิตรในการสนับสนุนสินเชื่อ ขอเพียงมีการรับรองจาก Franchisor ก็จะสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ แฟรนไชส์ได้แล้ว
 
ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารเป็นพันธมิตรกับแฟรนไชส์ชั้นนำที่มีศักยภาพมากกว่า 30 แบรนด์ ครอบคลุมทั้งธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ เบเกอร์รี่ ธุรกิจปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจสะดวกซัก และสถานศึกษา เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีอาชีพที่มั่นคงเติบโตสู่การเป็นเอสเอ็มอีที่แข็งแกร่ง และพร้อมเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไซส์ที่ไม่ได้มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาก่อน ด้วยแนวคิด SCB Instant Franchise เปิดโอกาสเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ได้ง่ายๆ สามารถเปิดร้านขายได้อย่างรวดเร็ว และยังมั่นใจกับความสำเร็จในยุค New Normal ด้วยเครื่องมือดิจิทัลครบครัน เช่น ระบบการชำระเงินดิจิทัลครบวงจร บริการปักหมุดร้านค้าบน Google Map พร้อมบริการ Food Delivery บนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด เป็นต้น ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลผ่านเว็บไซต์ https://scbsme.scb.co.th/  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ SCB Business Call Center โทร. 02 722 2222