Phones





ASW มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ ดันรายได้ปี64มุ่งสู่5พันล.

2021-08-16 11:48:17 274



นิวส์ คอนเน็คท์ - ASW มั่นใจ ผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง ดันรายได้รายปี 64 มุ่งสู่ 5พันล้านบาท ยอดขายแตะ 7 พันล้านบาท ตามแผน หลังตุน Backlog ไว้เพียบ จ่อผุดเพิ่ม 4 โครงการใหม่ 
  
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง จะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก จากยอดโอนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,300 ล้านบาท จากช่วงที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 2 โครงการ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก โดยบริษัทยังได้มุ่งเน้นการขายในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งมีผู้สนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม การเข้าดูโครงการยังต้องเป็นรูปแบบการนัดลูกค้ารายบุคคล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 อยู่ในภาวะเติบโต แม้เผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด โดยกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 258.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.1 % และมีรายได้รวม 1,107.2  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 47.1 % และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 23.2 % ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 578.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.7% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,281.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.8% 


ด้านเป้าหมายรายได้ทั้งปี 64 คาดอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 4,228 ล้านบาท จากการรับรู้ยอดขายในมือ (Backlog) ประมาณ 4,700 ล้านบาท จากจำนวนทั้งหมด 7,700ล้านบาท โดยในระยะต่อไป จะมี Backlog ใหม่เข้ามาเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมศักยภาพการสร้างรายได้ให้กับบริษัท ส่วนเป้าหมายยอดขายปี 64 คาดจะทำได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท ตามการเปิดโครงการใหม่
 
ล่าสุด บริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้นและเงินสด โดยมีสัดส่วนจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และการจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.02206 บาท เป็นเงิน 16,787,660 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 26 ส.ค 64 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 4 ต.ค. 64 ทั้งนี้ การจ่ายปันผลเป็นหุ้นในครั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นว่าบริษัทยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดเพื่อนำมาบริหารบางส่วน